TOP

WORK HARD,TRAVEL HARDER เทรนด์ของคนทำงานรุ่นใหม่ที่น่าจับตา

เรื่อง HAPPYNIZM

อะไรคืออุปกรณ์ที่จำเป็นที่สุด 3 อย่างที่คุณต้องใช้ในการทำงาน? คอมพิวเตอร์ ปลั๊กไฟ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง น่าจะเป็นคำตอบของคนทำงานครึ่งหนึ่งในยุคสมัยนี้ ใช่แล้ว เรากำลังอยู่ในยุคที่ทำหลายๆ สิ่งบนหน้าจอ ติดต่อกันด้วยตัวหนังสือมากกว่ายกหู และปิดงานกันได้โดยไม่ต้องนั่งข้างๆ กันเสียด้วยซ้ำ

20 ปีที่แล้ว Tsugio Makimoto ผู้บริหารของฮิตาชิเคยเขียนไว้ในหนังสือชื่อ ‘Digital Nomad’ ว่า “ในอนาคตข้างหน้า อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและอุปกรณ์แบบพกพา จะทำให้การทำงานไม่ติดอยู่กับสถานที่อีกต่อไป10 ปีต่อมา หนังสือเรื่อง The 4-Hour Workweek: Escape 9-5, Live Anywhere, and Join the New Rich ของ Tim Ferris ก็ได้เน้นย้ำความคิดนี้ ด้วยประเด็นของการให้เงินทำงานให้เรา และการที่เราได้ทำงานไปพร้อมกับท่องโลก ตอนที่ทั้งสองเสนอไอเดียการทำงานจากทางไกล (remote work) นั้น ยังไม่มีโซเชียลมีเดียทรงพลัง แอพฯ ปังๆ บนมือถือ หรือว่าแนวคิด sharing economy เสียด้วยซ้ำ

ยิ่งตอนนี้ ทุกอย่างยิ่งสนับสนุนวิธีการทำงานที่เอื้อต่อการขยับเคลื่อนที่ ทำให้หลายคนเลือกใช้ชีวิตแบบ ‘Digital Nomad’ มาก

ขึ้น ซึ่งหมายถึงการที่เราสามารถเคลื่อนย้ายงานไปตามสถานที่ที่ตนเองอยู่ได้ และส่งผลให้เกิดความรื่นรมย์ที่ตามมา นั่นก็คือการเที่ยวไปทำงานไป แต่ท่ามกลางความรื่นรมย์นั้นก็ยังมีปัญหาที่บรรดา Digital Nomad ต้องเผชิญนั่นก็คือการต้องวางแผนการเดินทางด้วยตนเอง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องวางแผนทั้งการทำงานและการท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กัน ไหนจะหาที่นั่งทำงานไม่ได้ ไม่มีอินเทอร์เน็ตให้ส่งงาน อ้าว นั่นลืมจองตั๋วของวันนั้นอีก

เนื่องจากประชากรชาว Digital Nomad กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีสตาร์ทอัพที่ตั้งขึ้นมาเพื่อตอบสนองและอำนวยความสะดวกให้กับไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้ บริการที่สตาร์ทอัพเหล่านี้เสนอ ก็เป็นไปเพื่อให้ชาวโนแมดทำงานได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลก พร้อมกับได้สำรวจโลกกว้างไปพร้อมๆ กันอย่างสบายใจ

Remote Year

เป็นสตาร์ทอัพที่ตั้งขึ้นด้วยความที่ผู้ก่อตั้ง Greg Caplan เกิดอยากไปเที่ยวด้วยทำงานด้วย แต่รู้สึกว่าต้องจัดการอะไรยุ่งยาก แถมหาเพื่อนไปด้วยไม่ได้ เขาเลยตั้ง Remote Year ขึ้น แล้วส่งคนที่อยากใช้ชีวิตแบบชาวโนแมด 80-100 คนต่อปี ออกไปท่องโลกพร้อมทำงาน โดยจะเปลี่ยนสถานที่ทุกๆ เดือน พร้อมกับจัดให้ทุกอย่างตั้งแต่การเดินทาง ที่พัก ที่ทำงาน กิจกรรมสันทนาการ (จะได้ไม่เหงา) รวมไปถึงหางานที่เหมาะกับผู้สมัครให้ด้วยถ้าต้องการ แต่แน่นอนล่ะว่าบริการที่ครบครัน ก็มาพร้อมค่าบริการที่ค่อนข้างจะโหดอยู่เหมือนกัน ตอนนี้ Remote Year มีแพ็คเกจแบบ 4 เดือน ในราคา $11,000 และ 1 ปี ในราคา $27,000

 remoteyear.com

Roam

อยากลองย้ายไปอยู่ประเทศอื่นสักพัก แต่ยังไม่ถึงกับอยากปักหลักหรือทำสัญญาเช่าอย่างจริงจัง สตาร์ทอัพนี้คือคำตอบสำหรับชาว ‘Roamer’ ด้วยการจัดหาที่อยู่สำหรับพักในระยะยาวทั่วโลก โดยเป็นลักษณะการแชร์พื้นที่ ทั้งที่อยู่อาศัย (co-living) และที่ทำงาน (co-working) โดยความตั้งใจหลักของ Bruno Haid ผู้ก่อตั้งคือต้องการมอบความสะดวกสบายในการพักผ่อน สร้างคอมมูนิตี้ไม่ให้รู้สึกเหงาจากการจากบ้านมาอยู่ไกลๆ และขณะเดียวกันก็ยังคงทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ด้วย ตอนนี้ Roam มีบริการที่ Miami, Bali, Tokyo และ London โดยมีค่าบริการเริ่มต้นที่ $500 ต่อสัปดาห์ และ $1,800 ต่อเดือน

 roam.co

Behere

เป็นสตาร์ทอัพที่เพิ่งเปิดตัวแบบสดๆ ร้อนๆ ลักษณะคล้ายกับบริการของชาวโนแมด คือหาที่พักในเมืองที่อยากไปและหาออฟฟิศสำหรับทำงานให้ แต่ต่างตรงที่ให้บริการสำหรับสาวๆ โดยเฉพาะ ก็เลยจะมีเรื่องของการจัดบริการด้านสุขภาพความงาม และปาร์ตี้อีเวนต์สำหรับผู้หญิงให้ด้วย ในแต่ละที่ที่ไปก็จะมีผู้ดูและที่จะคอยให้คำปรึกษาด้วย ราคาเริ่มต้นของ behere อยู่ที่ประมาณ $1,400 ต่อเดือน

gobehere.com

Nomad House

นอกจากการเที่ยวไปทำงานไปและการได้พบเพื่อนใหม่ การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยสำหรับชาวโนแมด ซึ่งสตาร์ทอัพอย่าง Nomad House ก็ได้เสนอบริการในรูปแบบนี้ โดยจะมีลักษณะเหมือนไปเข้าค่ายเรียนรู้ด้านธุรกิจที่ได้พักผ่อน ได้เที่ยว แล้วก็ไม่เสียงานด้วย โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $1,300 และใช้เวลา 30 วัน ส่วนจุดหมายปลายทางก็จะเปลี่ยนไปทั่วโลกในแต่ละเดือน

nomadhouse.io

Hacker Paradise

สตาร์ทอัพนี้เหมาะสำหรับโนแมดสายเทค ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมเมอร์หรือนักออกแบบ โดยจะเดินทางเป็นกลุ่ม 20-30 คนไปยังหลายจุดหมายทั่วโลก มีระยะเวลาให้เลือกตั้งแต่ 2 สัปดาห์ไปจนถึง 3 เดือน แต่ Hacker Paradise จะค่อนข้างเข้มงวดในการเลือกคนร่วมทริปโดยจะมีการสัมภาษณ์อย่างจริงจัง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้สมัครเหมาะกับการเดินทางครั้งนั้นจริงๆ เพราะนอกจากพักผ่อน เที่ยว และทำงานแล้ว คนที่ร่วมเดินทางไปกับ Hacker Paradise ยังหวังจะได้คอนเน็คชั่นดีๆ จากเพื่อนร่วมทางในสายงานใกล้เคียงกันด้วย ช่วงราคาอยู่ที่ $500-$2,100

hackerparadise.org

Refuga

อาจจะเรียกได้ว่าเป็น business trip สไตล์แอดเวนเจอร์ เมื่อจุดหมายหลักของ Refuga คือการรวบรวมเอาบรรดาผู้ประกอบกิจการหรือเจ้าของธุรกิจใหญ่ๆ มาออกเดินทางผจญภัยเพื่อเปิดมุมมองทางธุรกิจใหม่ๆ (ผจญภัยในที่นี้หมายถึงปีนเขาหรือติดเกาะ แต่ก็ยังมี co-working space และ sesssion ธุรกิจให้เข้าร่วม) โดยจะจัดทริปเป็นเวลาสั้นๆ 5-15 วันไปยังจุดหมายที่ตื่นเต้นหน่อย ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ $1,700

refuga.com

หลายคนอาจจะบอกว่าคนที่จะทำแบบนี้ได้ก็ต้องเป็น ‘ฟรีแลนซ์’ เท่านั้น เมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ต่อไปการอนุญาตให้ ‘เที่ยวไปทำงานไป’ อาจจะกลายเป็นสวัสดิการอย่างหนึ่งของบริษัทก็ได้

จากรายงาน Future Workforce Report ของ Upwork บริษัทจับตาเทรนด์แห่งใหญ่ในสหรัฐฯ ได้ทำการสำรวจผู้บริหารของบริษัทใหญ่ๆ ราว 1,000 บริษัท บรรดาผู้บริหารมองว่า 38% ของพนักงานที่ทำงานกับพวกเขาอยู่ขณะนี้ มีแนวโน้มที่จะขอทำงานทางไกล (Remote Work) ในอนาคตอันใกล้ และพวกเขาก็มองว่าคงไม่ใช่เรื่องดีนัก หากจะไปขัดกับความต้องการในโลกของการทำงานที่ค่อนข้างยืดหยุ่นอย่างในยุคสมัยนี้ รวมไปถึงว่า บริษัทก็ให้ความสำคัญกับความสามารถในการทำให้งานสำเร็จ มากกว่าความจำเป็นที่ต้องมีพนักงานนั่งในออฟฟิศอยู่แล้ว

ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ‘Digital Nomad’ หรือสวัสดิการที่บริษัทเสนอให้ แต่การได้รับความยืดหยุ่นของเวลาและสถานที่ในการทำงาน ก็น่าจะทำให้ชีวิตคนทำงานดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและความผูกพันที่มีต่อบริษัทอย่างแน่นอน

Work Hard Anywhere

แอพฯ สำหรับหาที่นั่งทำงานใน 100 ประเทศ มีข้อมูลสถานที่กว่า 13,000 แห่งที่ได้มาจากระบบ crowdsource มีทั้งคาเฟ่ coworking space และห้องสมุด โดยมีการให้คะแนนทั้งคุณภาพ Wi-Fi ที่นั่ง ราคา ความสะดวกสบาย และอื่นๆ ผู้สร้างแอพฯ นี้บอกว่า เขาเองในฐานะ Digital Nomad ก็เคยประสบปัญหาหาที่ทำงานไม่ได้มาเหมือนกัน

workhardanywhere.com

Hoffice

เป็นความร่วมมือระหว่างบรรดา coworking space กับ AirBnB ที่ให้คนเปิดพื้นที่ทำงานในบ้าน ให้ Digital Nomads เช่าสำหรับนั่งทำงานได้

hoffice.nu/en

สำหรับชาวโนแมดที่ต้องการหาเพื่อน ลองเลือกใช้แอพฯ และบริการเหล่านี้ดู
Nomadbase : nomadbase.io
NomadPass : nomadpass.com
Nomad Soulmates : nomadsoulmates.com

Vivamus gravida, eros nec volutpat aliquam, neque lacus mollis dolor, nec pretium mauris ante vitae risus. Duis rutrum odio vel accumsan imperdiet. Nulla ac posuere lacus. Quisque sed ipsum vel nisl gravida vulputate. Sed pretium non magna malesuada convallis. Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. In sodales porta gravida. Fusce pellentesque,