วิศวกรวัย 52 ปี สร้าง Volocopter เฮลิคอปเตอร์แท็กซี่ในฝัน ที่เป็นจริงขึ้นมาได้
อาจจะฟังดูเหมือนความคิดของโลกยูโทเปียเสียหน่อย แต่ Volocopter พาหนะบินได้แบบอัตโนมัตินั้นเป็นเรื่องจริงแล้ว และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการทดลองใช้ในประเทศดูไบ ในบทสัมภาษณ์นี้ Alexander Zosel จะมาเล่าให้ฟังถึงแท็กซี่บินได้ ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งทีมของเขาช่วยกันพัฒนาขึ้นมา มีการคาดการณ์ว่ายานพาหนะที่บินได้ จะเปลี่ยนแปลงระบบการจราจร และการเดินทางของเราไปตลอดกาล ในขณะที่อีกหลายคนซึ่งอาจจะไม่ถึงกับเชื่อมั่นกับแนวคิดนี้มากนัก ก็ยังมองว่าอย่างน้อยมันก็เป็นคอนเซ็ปต์การเดินทางที่น่าตื่นเต้น คงไม่มีใครที่จะพูดคุยกับเราในเรื่องนี้ได้ดีไปกว่า Alexander Zosel และทีมของเขาที่ก่อตั้งบริษัท Volocopter GmbH ขึ้นในเมือง Bruchsal ของเยอรมนี
ความคิดที่ว่าจะสร้างแท็กซี่บินได้อัตโนมัตินี่เกิดขึ้นได้อย่างไร
บอกตามตรงว่าจริงๆ แล้วมันเป็นความคิดของ Stefan Wolf เพื่อนของผม ซึ่งก็เป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจของผมอยู่ด้วยในตอนนี้ ลูกชายของเขาอยากได้มัลติคอปเตอร์ (Multicopter) Stefan ก็เลยคิดไปถึงการสร้างมัลติคอปเตอร์ หรือโดรน ในขนาดที่คนเข้าไปนั่งได้ เขาเอาไอเดียนี้มาคุยกับผม เพราะผมเคยทำงานเป็นครูสอนพาราไกลดิ้ง (Paragliding) มาก่อน แล้วเขาก็คงมองว่าผมพอจะทำให้มันเกิดเป็นธุรกิจขึ้นได้ด้วย
เส้นทางอาชีพของคุณดูน่าสนใจมากเลย คุณจบวิศวกรรมด้านการก่อสร้างมา คุณเคยเล่นในลีค German Basketball Bundesliga แถมยังเคยเป็นนักกีฬาสโนว์บอร์ดระดับโลก แล้วยังเคยเปิดคลับด้วย คุณเคยมีประสบการณ์ด้านการบิน หรือเคยทำงานในอุตสาหกรรมการบินมาก่อนบ้างหรือเปล่า
อย่างที่ผมบอกครับ ผมเคยเป็นครูสอนพาราไกลดิ้ง (Paragliding) มาก่อน (หัวเราะ) ผมว่าผมเป็นคนที่มีความสนใจหลายอย่าง แล้วก็มีจินตนาการมากมาย เพราะฉะนั้นผมเห็นภาพในหัวตั้งแต่ตอนนั้นเลย ว่าหน้าตาของแท็กซี่บินได้นั้นจะเป็นยังไง
จากวิสัยทัศน์ตรงนั้น Volocopter ก็เกิดขึ้น คุณใช้เวลานานไหมในการพัฒนามันขึ้นมา
หลังจากเราผุดไอเดียนั้นขึ้นมา เราก็สามารถทดลองบินครั้งแรกได้ในหนึ่งปีต่อมา ซึ่งก็คือปี ค.ศ. 2011 พวกเราเป็นทีมแรกในโลก ที่สามารถส่งยานพาหนะขึ้นในแนวตั้งได้ โดยใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว นั่นทำให้เราได้รับการบันทึกลงสถิติโลกใน Guinness Book ด้วยนะ
ตอนนั้น Volocopter ไม่ได้ดูล้ำสมัยเท่าตอนนี้
ใช่แล้ว ตอนนั้นเราตั้งใจพัฒนาด้านเทคนิคเป็นสำคัญ ผมยอมรับนะว่าดีไซน์ตั้งต้นของเรานี่ดูเหมือนกับกระสุนปืนบินได้ ที่หลุดออกมาจากปืนของ Baron Münchhausen เลยแหละ เราไม่มีทางชนะรางวัลในเวทีออกแบบได้ด้วยอะไรหน้าตาแบบนั้นแน่นอน
ใครเป็นคนออกแบบโปรโตไทป์แรกเริ่ม
จริงๆ มันคือการรวมกันของหลายๆ ไอเดีย ต้องยกความดีความชอบให้ทีมพัฒนาเทคโนโลยีของเรา ที่แม้จะมีคนไม่มาก แต่ก็ทำให้มันบินได้ในที่สุด
คุณช่วยอธิบายการทำงานของ Volocopter แบบย่อๆ ได้ไหม
ระบบแบตเตอรี่ที่เป็นอิสระจากกัน 9 ระบบ ใบพัด 18 ตัว และระบบประมวลผลขนาดจิ๋ว ช่วยให้ Volocopter ขึ้นบินได้อย่างราบรื่น เราออกแบบให้ใบพัดคู่ตรงข้ามกัน ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่หนึ่งตัว ทำให้ในกรณีที่แบตเตอรี่พังหนึ่งตัว ก็ยังมีใบพัดที่ทำงานได้อยู่
นั่นทำให้มันไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่งด้วย เพราะว่าเป็นการจับคู่ใบพัดที่อยู่ตรงข้ามกัน แล้ว Volocopter แตกต่างจากเฮลิคอปเตอร์ทั่วไปอย่างไร
Volocopter นี้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว และกระบวนการสร้างมันขึ้นมา ก็ไม่มีอะไรใกล้เคียงกับเฮลิคอปเตอร์เลย มอเตอร์ทั้ง 18 ตัวนั้นเชื่อมต่อกันด้วยไฟเบอร์กลาส ถ้าตัวใดตัวหนึ่งเกิดขัดข้อง ก็จะไม่มีผลอะไรกับตัวอื่นเลย Volocopter ยังส่งเสียงดังรบกวนน้อยกว่าด้วย จากการทดลองวัดระดับเสียง เฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ห่างออกไป 500 เมตร ยังเสียงดังกว่า Volocopter ที่อยู่ห่างออกไป 75 เมตรเสียอีก
คุณว่าผู้คนจะเชื่อใจเทคโนโลยีนี้ไหม
เป็นปกติที่จะมีความกลัวเกิดขึ้น เมื่อเราแนะนำให้คนรู้จักกับเทคโนโลยีและสิ่งประดิษฐ์อะไรใหม่ๆ แต่ Volocopter ของเราได้ผ่านการทดสอบจากองค์การด้านอากาศยานระดับชาติมาแล้ว ทั้งในเยอรมนีและดูไบ รวมถึงเราสามารถพิสูจน์ให้เห็นได้เลยว่า แม้ใบพัดและแบตเตอรี่หลายตัวจะหยุดทำงาน Volocopter ก็ยังคงบินได้อยู่
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงสามารถทำการทดสอบการใช้จริงได้ในดูไบอยู่ตอนนี้ใช่ไหม
ใช่แล้ว ดูไบเป็นที่แรกที่เราได้บริการลูกค้า เมืองนี้มีความตั้งใจอยู่แล้วว่า 1 ใน 4 ของขนส่งสาธารณะของเมืองจะต้องเป็นระบบขับขี่อัตโนมัติ ภายในปี ค.ศ. 2030 ดังนั้น เราก็เลยทำข้อตกลงกับ Roads and Transport Authority (RTA) ในการทดลองบินแท็กซี่บินได้ของเรา การทดลองบินครั้งแรกของเราในใจกลางเมือง จึงเริ่มต้นขึ้นเมื่อตอนฤดูใบไม้ร่วงของปี ค.ศ. 2017
แต่การให้บริการช่วงแรกๆ ก็ยังมีนักบินนั่งไปด้วยใช่ไหม
ใช่ครับ เพราะนี่ถือเป็นระยะเริ่มต้น จึงต้องอาศัยการสร้างความเชื่อใจให้กับเทคโนโลยีนี้ก่อน แต่ในระยะยาว เราตั้งใจให้เป็นพาหนะไร้คนขับ ซึ่งจริงๆ แล้วต้องบอกว่ามันปลอดภัยไม่น้อยไปกว่ากันเลย
Volocopter ถูกออกแบบมาให้บินได้ในระยะไกลแค่ไหน
เราตั้งใจให้ Volocopter เริ่มให้บริการการบินในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยระยะเริ่มต้นสามารถเดินทางได้ในระยะ 10-15 กิโลเมตร แบตเตอรี่จะใช้งานได้ประมาณ 30 นาที โดยการเปลี่ยนแบตเตอรี่ ใช้เวลาประมาณ 3-4 นาที ซึ่งนั่นเป็นช่วงเวลาที่ผู้โดยสารลงและขึ้นจากยานพาหนะพอดี ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการให้บริการหรือการเดินทางมากนัก
แต่นั่นแปลว่า Volocopter ก็ยังต้องใช้แรงงานคนในการช่วยชาร์จแบตใช่ไหม
อย่างน้อยก็ใช้ในช่วงเริ่มต้น แต่เรากำลังพยายามพัฒนาให้งานนี้ทำโดยหุ่นยนต์ได้ เราตั้งใจที่จะพัฒนาสถานีจอดที่มีระบบดูแลรักษา Volocopter ได้ในหลายๆ ด้านโดยอัตโนมัติ นับตั้งแต่บินเข้าจอด ก็จะมีการตรวจสอบและชาร์จไฟ แล้วก็เป็นจุดปล่อยตัวออกไปอีกครั้ง แทนที่จะต้องมีทั้งป้ายจอดและสถานีชาร์จหรือปั๊มน้ำมัน เมืองก็มีแค่สถานีแบบนี้ที่สมบูรณ์ในที่เดียว
ราคาของ Volocopter อยู่ที่เท่าไหร่
ตัวต้นแบบที่คุณเห็นอยู่นี่ ใช้ต้นทุนหลายล้านยูโรในการสร้างขึ้นมา แต่แน่นอนว่าในการผลิตจำนวนมาก ก็จะช่วยลดต้นทุนลงไปได้
ผมรู้ว่าตอนนี้ Daimler AG มีหุ้นอยู่ 11% เปอร์เซ็นต์ในบริษัทของคุณ แต่ด้วยยอดเงินลงทุนมากมายขนาดนั้น คุณไปหาทุนจากที่ไหนมาสร้าง
ตอนตั้งบริษัท เราเริ่มจากเงินลงทุนของเราเองก่อน จากนั้นก็ออกแคมเปญระดมทุน มาถึงตอนนี้เรามีพาร์ทเนอร์จำนวนมาก อย่าง Intel และ Daimler AG ที่คุณบอก
บรรดานักอนุรักษ์นก มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง กับการเดินทางทางอากาศในเมือง
พวกเขาก็มีปฏิกิริยาหลายแบบนะ บางคนก็บอกว่าดีที่จะได้นับที่อยู่อาศัยของนกได้จากบนฟ้า แต่ก็มีหลายคนเหมือนกันที่เป็นห่วงว่าจะมีปัญหาการจราจรติดขัดบนฟ้าเหมือนบนถนน
แล้วคุณมีวิธีรับมือกับคำวิจารณ์อย่างไร
Volocopter ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อความบันเทิงอยู่แล้วนี่ ลองคิดดูสิว่า นอกจากแท็กซี่ที่วิ่งบนถนนแล้ว เรายังมีทางเลือกในการใช้บริการได้อีกเป็นร้อย หรืออาจจะพันคันบนท้องฟ้า คนน่าจะขับรถยนต์เองน้อยลง เราแค่อยากแก้ปัญหาการจราจรบนท้องถนน และมอบทางเลือกใหม่ในการเดินทางให้กับคนเมืองเท่านั้นเอง
Ina Brzoska เจอกับ Alexander Zosel ผู้ก่อตั้ง Volocopter ที่ DLD Conference ในมิวนิค หลังจบบทสนทนา เธอก็คิดภาพตัวเองนั่งแท็กซี่บินได้ออกในทันที
สัมภาษณ์โดย INA BRZOSKA