TOP
h
  /  DINE & TRAVEL (Page 6)

เดินทางมุ่งหน้าสู่สมบัติแห่งตะวันออก สวรรค์บนดินแห่งการพักผ่อน ณ โรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์​สปา ที่พร้อมมอบที่สุดแห่งความสุขให้กับทุกคนในครอบครัว โรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของประเทศไทย ห่างจากหาดทรายขาวบริสุทธิ์เพียงไม่กี่ก้าว ที่แห่งนี้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกได้อย่างครบครัน ทั้งภายในห้องพักที่มีทั้งสิ้น 205 ห้อง ทุกห้องมีขนาดกว้างขวางโอ่โถง เริ่มต้นที่ห้องพักดีลักซ์วิวภูเขาและวิวทะเล ขนาด 40 ตร.ม. ไปจนถึงห้อง Ocean Pool Suite ที่กว้างถึง 130 ตร.ม. มาพร้อมโซฟาเบด พื้นที่ทำงาน ห้องน้ำหินอ่อนแยกฝักบัวและอ่างอาบน้ำทุกห้อง ส่วนห้องสวีตที่มีขนาด 77 และ 80 ตร.ม. มาพร้อมระเบียงส่วนตัวที่มองเห็นวิวพาโนรามาอันงดงามของอ่าวไทย    ลิ้มลองอาหารแสนอร่อยที่ ห้องอาหาร ซีซอลท์ คาเฟ่ ที่เปิดให้บริการตลอดวัน ทั้งอาหารเช้า กลางวัน และเย็น ในสไตล์บุฟเฟ่ต์ อาหารตะวันตก อาหารไทย นานาชาติ หรือเลือกสั่งตามเมนู นอกจากนี้ยังสามารถสั่งพิซซ่าอบใหม่จากเตาไม้ที่หอมกรุ่นพร้อมชมทิวทัศน์ของท้องทะเล ฟิช บาร์ ร้านอาหารริมชายหาด สไตล์ทันสมัย ที่เสิร์ฟอาหารทะเลและปลาทะเลที่จับสดใหม่ทุกวัน จาว่า คาเฟ่ขนมอบ แพสทรี ขนมปัง และเค้กหลากหลายชนิด มาพร้อมกาแฟ ชา ช็อคโกแลต และสมูทตี้ผลไม้ให้เลือกชิมยามบ่าย วอเตอร์ บาร์ สนุกไปกับบรรยากาศอันผ่อนคลายพร้อมเครื่องดื่มน้ำผลไม้คั้นสด อาหารว่างระหว่างวัน สลัด และเมนูที่ได้รับแรงบันดาลจากใจจากไทยและฝั่งตะวันตกหลากหลายรูปแบบ และปิดท้ายกันที่ เดอะเลาจน์ บาร์หรูที่คัดสรรเครื่องดื่มชั้นเยี่ยมมาให้คุณได้ดื่ม พร้อมชมวิวชายหาดขณะพระอาทิตย์กำลังตกอันงดงาม ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังมีห้องประชุมสัมมนา ที่สามารถจัดงานสำคัญของคุณได้อย่างไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเป็นภายในห้องประชุม พื้นที่บนสนามหญ้ากว้างขวาง บนเนินเขาอันร่มรื่น หรือบนชายหาดที่งดงาม รวมทั้งยังมี สระว่ายน้ำ สปา (QUAN SPA) ฟิตเนสตลอด 24 ชม. และคิดส์คลับ ที่รอต้อนรับคุณหนู ๆ ให้สนุกไปกับวันหยุดครอบครัว ครบครันทั้งบ้านบอล ห้องภาพยนตร์ โต๊ะฟุตบอล มุม XBOX และ PlayStation หรือเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเช่น การทำศิลปะ งานฝีมือ และคลาสทำอาหารก็ได้เช่นกัน    สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต UOB Mercedes ▪️ พัก 3 จ่าย 2 สำหรับห้องดีลักซ์วิวภูเขา และห้องดีลักซ์วิวทะเลจากราคาปกติ ▪️ ส่วนลด 15% สำหรับอาหาร เครื่องดื่ม และสปา    เงื่อนไข ▪️ สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต UOB Mercedes เท่านั้น    สาขาที่ร่วมรายการ  Rayong Marriott Resort and Spa    ระยะเวลา 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2567  

ยุค 70s ยุคทองแห่งความเฟื่องฟู ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดนตรี สถาปัตยกรรม การตกแต่งอาคาร การแต่งกาย และอาหาร ล้วนมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์แห่งยุค Bangkok’78 ณ โรงแรมสินธรมิดทาวน์ กรุงเทพฯ จุดหมายใหม่ที่ชวนอิ่มเอมไปกับความละเมียดละไมแห่งรสชาติอาหารไทยย้อนยุค เรียกว่าคนร่วมยุคสมัยจะจดจำเสน่ห์แห่งรสชาติที่สามารถย้อนวัยกลับไปคิดถึงด้วยรอยยิ้ม ปลุกความทรงจำผ่านการรังสรรค์หลากหลายเมนูคลาสสิก โดย เชฟกอล์ฟ ภัควลัญชญ์ เวชมนต์ เมนูอาหารไทยแท้ดั้งเดิมหลากรสคุ้นเคย ที่ถูกปากชาวกรุงเทพฯ มาทุกยุคทุกสมัย เชฟกอล์ฟ นำแพชชั่นในการทำอาหารตั้งแต่สมัยเด็ก จากการที่มักได้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในครัวเป็นลูกมือในร้านอาหารเล็ก ๆ ของคุณแม่ นับแต่นั้นมารสมือจากความทรงจำ ผสมผสานเข้ากับรสชาติและเทคนิคการปรุงในยุคปัจจุบัน โดยคงความดั้งเดิมของเมนูอาหารอันคุ้นเคยที่อัดแน่นด้วยเครื่องเทศ และรสชาติที่กลมกล่อมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับเมนูเรียกน้ำย่อยที่เป็นไฮไลต์อาหารจานหลัก อย่าง เมนูยำมะเขือยาวหมูสับไข่ต้ม ที่นำมะเขือยาวชิ้นโตมาเผาจนหอม ปรุงรสด้วยน้ำยำครบรสรับประทานเข้ากันกับหมูสับ เสิร์ฟพร้อมไข่เป็ดต้มยางมะตูม, เมนูไข่ตุ๋นทะเลหมูสับหม้อไฟไข่ตุ๋น เนื้อเนียนเสริมรสชาติกลมกล่อมด้วยหมูสับและอาหารทะเลสดใหม่ และ ดอกขจรผัดวุ้นเส้นและแหนมดอกไม้ ผักพื้นบ้านเต็มไปด้วยคุณประโยชน์ นำมาผัดกับวุ้นเส้นนุ่มหนึบเสริมรสเปรี้ยวเค็มด้วยแหนมหมู และปิดท้ายด้วยของหวานที่ไม่ควรพลาด อย่าง ว่านหางจระเข้ในน้ำเชื่อมอัญชันมะนาว ครบรสเปรี้ยวหวานหอมสดชื่น และ กระท้อนหิมะเกล็ดน้ำแข็งละเอียด แบบกรานิต้าตัดด้วยรสหวานหอมจากกระท้อนผลไม้ไทยที่คุ้นเคย ในส่วนของเครื่องดื่ม นอกจากไวน์สัญชาติไทยและนานาชาติที่พร้อมให้เลือก มาเสริมบรรยากาศบนโต๊ะอาหารแล้ว Bangkok’78 ยังนำเสนอ เครื่องดื่มชาเย็นแบบไทย ๆ ด้วยสี่รสชาติซิกเนเจอร์ ได้แก่ ชามะนาว, ชาตะไคร้และขิง, ชาเก๊กฮวยและใบเตย และชาราสเบอร์รี่ สำหรับการตกแต่งเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูด นำแรงบันดาลใจจากถนนหนทางต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ เส้นขอบฟ้า และตึกระฟ้า ที่เป็นภาพทรงจำกลิ่นอายกรุงเทพฯ ในอดีตเชื่อมต่อกรุงเทพฯ ยุค 2022's ณ ห้องอาหารแห่งใหม่ Bangkok’78 โดยเน้นโทนสีเข้มให้ความหนักแน่นตัดอารมณ์ด้วยการใช้ลายเส้นขอบ และเท็กซ์เจอร์ที่คมชัดพร้อมด้วยภาพวาดบนผนังสื่อถึงบรรยากาศของกรุงเทพฯ ในยุค 1970’s ขณะเดียวกันบนผนังยังมีลวดลายงานจักสานสีสันสดใส ให้อารมณ์ความมีชีวิตชีวาของแผงขายอาหารข้างทาง หนึ่งในเอกลักษณ์คุ้นตาของกรุงเทพฯ 📍 อีกทั้งเพลย์ลิสต์เพลงคลาสสิกจากยุค 1970’s ที่ได้รับการคัดสรรขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้ทุกความทรงจำของวันวานอันแสนสนุกได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ณ Bangkok’78 สามารถรับฟังได้ที่นี่ 🕚 Bangkok’78 เปิดให้บริการทุกวัน: มื้อกลางวันจันทร์–ศุกร์: 11:30 –15:00 น., มื้อกลางวันเสาร์–อาทิตย์: 11:30 –17:00 น. มื้อเย็นทุกวัน: 17:00 –22:00 น. 📍 ร้านอาหารสามารถรองรับแขกได้ 150 ที่นั่ง พร้อมด้วยห้องส่วนตัวสำหรับแขก ตั้งแต่จำนวน 8, 10, 12 และ 14 🌐 รายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่ง: https://www.sindhornmidtown.com/dine/thai-restaurant-bangkok

หาดเชิงมนขึ้นชื่อเรื่องความงดงามและเงียบสงบหาดหนึ่งของเกาะสมุย จุดหมายเปี่ยมเสน่ห์มนต์ขลังอันเป็นที่ตั้งของรีสอร์ตติดทะเลแห่งใหม่ ดึงดูดให้นักพักผ่อนจากทั่วโลกต่างเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับ กับบริการมาตราฐานคิมป์ตันตั้งแต่ก้าวแรก ณ KIMPTON KITALAY SAMUI (คิมป์ตัน คีตาเล สมุย) ที่ถือได้ว่าเป็นรีสอร์ตแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ IHG Hotels & Resorts เครือโรงแรมและรีสอร์ตสุดหรูระดับโลก เพียงไม่กี่นาทีจากท่าอากาศยานนานาชาติสมุย ก็ได้สัมผัสบรรยากาศอันแสนอบอุ่นของการต้อนรับ ภายใต้โครงสร้างโปร่งโล่งด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหมู่บ้านชาวประมงเพียงแห่งเดียวบนเกาะสมุย พร้อมกลิ่นอายวิถีชาวเลแห่งท้องทะเลใต้แบบพื้นบ้าน ผสานความหรูหราอย่างมีสไตล์ ความเหนือระดับกับประสบการณ์การพักผ่อนที่เสมือนอยู่บ้าน นั่นคือหัวใจสำคัญที่คิมป์ตันมอบให้ผู้เข้าพัก และรีสอร์ตแห่งนี้ยังเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง Pet Friendly Resort ที่อนุญาตให้เพื่อนสัตว์เลี้ยงเกือบทุกประเภทเข้าพักได้ เรียกว่าแทบจะไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าน้องสัตว์เลี้ยงจะขนาดเล็กหรือใหญ่ และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติมเมื่อนำเพื่อนรักแสนรู้เข้าพักอีกด้วย จากโถงต้อนรับเพียงไม่กี่ก้าว ก็เข้าสู่มิติแห่งความผ่อนคลายไปกับ คิมป์ตัน คีตาเล สมุย ที่มอบวิวทะเลและสระว่ายน้ำขนาดใหญ่เบื้องหน้า สะกดทุกสายตาดึงดูดให้เข้ามาค้นหาเสน่ห์ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในอันเต็มไปด้วยเรื่องราว และยังได้เข้าถึงความหมายของชื่อ "คีตาเล" ชวนให้ดำดิ่งสู่บทเพลงก้องกังวานขับขานจากท้องทะเลสีคราม เสน่ห์รีสอร์ตหนึ่งเดียวบนเกาะสมุย ที่เบลนด์ความหรูหรา ความทันสมัย และกลิ่นอายของวัฒนธรรมประมงพื้นบ้านเข้าไว้ด้วยกัน ได้รับการตีความใหม่โดยบริษัทออกแบบชื่อดัง นำเอาสัญลักษณ์และรายละเอียดต่างๆ มาประยุกต์ใช้ อย่าง เศษไม้จากเรือประมง เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่เหนือกาลเวลา โคมไฟดีไซน์จากหวาย ลวดลายฝาผนังขัดแตะจากไม้ไผ่ตามแบบบ้านชาวประมง ส่งต่อแรงบันดาลใจสู่งานหัตถศิลป์บนผนังห้องโซนต่างๆ ลวดลายพรม และงานศิลปะชิ้นเอกจากช่างฝีมือชาวไทย ที่ประดับตกแต่งในส่วนต่างๆ ของรีสอร์ต ยึดโยงหัวใจสำคัญของการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในส่วนของห้องพัก รองรับผู้เข้าพักได้ถึง 138 ห้อง ภายใต้อาคารสีขาวที่มีสระว่ายน้ำล้อมรอบ และโซนวิลล่า ที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง อาทิ วิลล่าริมทะเล ที่สวยงาม จำนวน 21 หลัง ประกอบด้วย Garden Pool Villa แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 171 ตร.ม. เชื่อมต่อกับสวนเขตร้อนเขียวชอุ่ม, Oceanfront Pool Villa แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 224 ตร.ม. ห้องพักริมทะเลอันแสนผ่อนคลาย, Kitalay Villa แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 628 ตร.ม. วิลล่าที่ออกแบบอย่างทันสมัยเน้นใช้วัสดุและสีจากธรรมชาติ ห้องนอนและพื้นที่นั่งเล่นแยกเป็นสัดส่วน พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวเพียงไม่กี่ก้าวจากชายหาด สามารถรองรับผู้เข้าพักกลุ่มใหญ่ในแบบส่วนตัวได้อีกด้วย สำหรับ ห้องสวีท มีจำนวน 9 ห้อง พื้นที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่นแยกเป็นสัดส่วน มาพร้อมระเบียงขนาดใหญ่เชื่อมต่อกัน อาทิ ห้องสวีทเชื่อมต่อกับสระน้ำ แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 115 ตร.ม. พร้อมทางเดินเชื่อมไปยังสระว่ายน้ำ, ห้องสวีทวิวทะเล แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 115 ตร.ม. ห้องพักในบรรยากาศธรรมชาติที่มอบวิวทะเลจากมุมสูง, ห้องสวีทสำหรับครอบครัว แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 173 ตร.ม. มีพื้นที่นั่งเล่นแบบเปิดโล่งพร้อมระเบียงส่วนตัว และ ห้องพัก Essential มีจำนวน 108 ห้อง ได้รับการออกแบบพื้นที่เปิดโล่งขนาดกว้างขวาง ประกอบด้วย ห้อง Essential วิวทะเล ขนาด 58 ตร.ม., ห้อง Essential สำหรับครอบครัว ขนาด 116 ตร.ม., ห้อง Essential วิวรีสอร์ต ขนาด 58 ตร.ม. และ ห้อง Essential วิวรีสอร์ตที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ ขนาด 58 ตร.ม. ภายในห้องพักยังใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและเครื่องหอมของแบรนด์ HARNN ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่ได้รับการรับรองจากประเทศอิตาลี และได้ออกแบบกลิ่นเฉพาะของรีสอร์ตแห่งนี้อีกด้วย นอกจากกลิ่นหอมสดชื่น ยังสบายตาด้วยการตกแต่งสีเอิร์ธโทนและสีขาว มอบความหรูหราคลาสสิกด้วยพื้นผิวหินอ่อนรับกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแท้ แม้แต่ลวดลายกระเบื้องบนพื้นห้องน้ำยังงดงามวิจิตร มาพร้อมอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่พิเศษ และสิ่งอำนวยความสะดวกเกรดพรีเมี่ยม โดยเฉพาะคนรักเสียงเพลงต่างถูกใจกับลำโพงเคลื่อนที่ ได้ชิลไปกับเพลย์ลิสต์ Spotify ทุกที่ทุกเวลา และอีกเสน่ห์ของคิมป์ตัน คีตาเล คือการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นศิลปะพื้นบ้าน มาสื่อสารผ่านงานดีไซน์โฉมใหม่ในหลายรูปแบบอย่างมีรสนิยม อาทิ ผ้าทอมัดย้อมนำมาตัดเย็บเป็นหมอนอิงสวยงาม เสื้อคลุมบาธโรบผ้าทอเนื้อนุ่มจากฝีมือช่างตัดเย็บท้องถิ่น ผ้าเช็ดมือปักลวดลาย ใส่หัวใจลงในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เรียกรอยยิ้ม และทุกห้องพักยังแวดล้อมไปด้วยภูมิทัศน์อันร่มรื่นของสวนสวยเขตร้อนเขียวสดชื่น ที่ได้รับการออกแบบแลนด์สเคปกลมกลืนไปกับธรรมชาติ พร้อมสระว่ายน้ำที่ส่องประกายระยิบระยับ ให้ปล่อยใจปล่อยกายรีแลกซ์ได้ตลอดวัน ที่สุดอะเมซิ่งภายในรีสอร์ต จัดสัดส่วนเฉพาะสระว่ายรวมถึง 1,500 ตร.ม. ด้วย สระว่ายน้ำ มากถึง 25 สระ ด้วยกัน รวมถึงสระเด็ก โดยสระใหญ่ใจกลางรีสอร์ตมีขนาดมาตราฐานโอลิมปิกแห่งเดียวบนเกาะสมุย ไม่ว่าจะนักว่ายน้ำตัวยง หรือนักพักผ่อนที่มาใช้บริการสนุกสนานยกแก๊งครอบครัว ยิ่งทำให้สระแห่งนี้มีชีวิตชีวา และเมื่อมองในระดับสายตาเรียกว่ากลมกลืนไปกับวิวทะเลเลยทีเดียว นอกจากห้องพักที่สุดแสนสบายแล้ว อาหารและเครื่องดื่มเป็นอีกดีเอ็นเอของคิมป์ตัน จนเป็นที่ยอมรับจากนักเดินทางทั่วโลก ณ คิมป์ตัน คีตาเล สมุย แห่งนี้ มอบประสบการณ์แห่งสุนทรียรสด้วยการนำรสชาติอาหารอันคุ้นเคย ผสมผสานทั้งความเป็นตะวันออกและตะวันตกอย่างมีศิลปะ รังสรรค์อาหารจานพิเศษอันโอชะด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพสดใหม่ ให้ได้ดื่มด่ำรสชาติอันน่าจดจำที่พร้อมนำเสนอใน 5 ห้องอาหารและ 3 บาร์ต่างสไตล์ ภายใต้บรรยากาศแสนผ่อนคลายปลอดโปร่ง เริ่มจาก LANAI Bar & Lounge นิยามใหม่ของเลาจ์ที่เปรียบเสมือนห้องรับแขกและห้องหนังสือ ด้วยพื้นที่เชื่อมต่อจากล็อบบี้ที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง เปิดรับแสงธรรมชาติตั้งแต่เริ่มต้นวันยันค่ำคืน ผ่านฉากกั้นกระจกและหน้าต่างบานสูง เหมาะกับการเริ่มต้นวันสบายเอนกายจิบเครื่องดื่มแก้วโปรดพร้อมหนังสือดีๆ สักเล่ม กรุ่นกลิ่นหอมจากเมล็ดกาแฟอาราบิกาออร์แกนิก มีให้เลือกตั้งแต่ดริปคลาสสิก โคลด์บรูว ไปจนถึงเมนูกาแฟสุดสร้างสรรค์ ที่ได้รับการออกแบบโดยบาริสต้าผู้เชี่ยวชาญ เสิร์ฟทุกความต้องการของคอกาแฟในทุกช่วงเวลาของวัน แนะนำรับประทานคู่กับซิกเนเจอร์ครัวซ็องสดใหม่ หรือเติมพลังยามบ่ายกับชูโรส (Churros) สูตรเด็ด ยังมีเมนูอาหารทานเล่นมากมาย อย่าง Steak and Eggs, Super Green ที่ให้พลังงานและคุณค่าโภชนาการต่อร่างกาย และสำหรับผู้ชอบดื่มชาแนะนำ Single Origin ใบชาที่ถูกเก็บเกี่ยวด้วยมือในชากลุ่ม Artisan คุณภาพเยี่ยม ก่อนแปลงโฉมเป็นบาร์สุดชิลยามค่ำคืน ให้ปล่อยใจปล่อยกายสบายๆ ใต้แสงไฟสลัว โรแมนติกและรู้สึกพิเศษไปกับบรรยากาศอันตื่นใจ ที่แฝงไว้ในทุกรายละเอียดของการตกแต่งอย่างมีสไตล์ ยิ่งขับให้สะดุดตากับโคมไฟเพดานดีไซน์โมเดิร์น เพลินตาไปกับเส้นสายไม้ไผ่และหวาย รวมถึงวัสดุธรรมชาติที่ได้รับการออกแบบมาอย่างลงตัวสอดรับกับคอนเซ็ปต์บาร์เปิด สัมผัสบรรยากาศโปร่งสบายในรีสอร์ตริมทะเล ที่มีทั้งมุมโซฟาสำหรับแก๊งก๊วนเพื่อนสนิท มุมโรแมนติกสำหรับคู่รัก และเคาว์เตอร์บาร์สำหรับเพิ่มลิสต์เพื่อนใหม่ แถมยังได้เพลิดเพลินไปกับลีลาของมิกโซโลจิสต์ที่รังสรรค์เมนูเครื่องดื่มเสิร์ฟความสดชื่นได้ตามความต้องการ เติมเต็มค่ำคืนแห่งสีสันด้วยเครื่องดื่มวิสกี้, จิน ที่มาพร้อมกับคราฟต์โทนิก, เหล้าท้องถิ่น หรือค็อกเทลซิกเนเจอร์ อย่าง เมนู Sloe Gin Pink Lady ที่ให้รสเปรี้ยวหอมหวานของทับทิมเกรนาดีนโฮมเมด หรือ Verde Marry มอบความเผ็ดร้อนเบาๆ ของพริกไทยได้รสชาติแปลกใหม่จากส่วนผสมของน้ำผักผลไม้ออร์แกนิกหลากชนิด รับประทานคู่กับอาหารอินเตอร์สแน็กฟู้ดสร้างสรรค์ที่มีรสชาติเฉพาะหลากเมนู ผสมผสานความเป็นตะวันตก ตะวันออก และอาหารไทย อย่าง Massaman Beef Bomba คร็อกเก้มันฝรั่งบดสไตล์สเปนสอดไส้แกงมัสมั่นเนื้อ, เมนู Laab Tuna Tartare ลาบทูน่ารสชาติจัดจ้านถึงเครื่องลาบหวานเนื้อทูน่าสด และอีกหลายเมนูพร้อมให้เลือกสรรตามความชอบ แล้วปล่อยใจให้ผ่อนคลายไปกับดนตรีแนวป๊อป แอนด์ โซล หรือจะแฮงเอาท์ด้วยมื้อเช้าจรดค่ำ ที่คาเฟ่สไตล์ไทยร่วมสมัย BOHO Thai Lifestyle Cafe ผ่อนคลายสบายๆ ภายใต้พื้นที่เปิดโล่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาของสีสัน ผสานความเก๋ไก๋และความอาร์ตไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมการตกแต่งในสไตล์เรโทรโชว์ศิลปะแอบสแตกอาร์ตสีสด และรูปวาดที่อินสไปร์มาจากทะเล เปิดโล่งรับอากาศบริสุทธิ์ผ่านหน้าต่างบานยาว และพื้นที่เชื่อมต่อกันเป็นตัวยู สามารถเลือกนั่งชิลได้ทั้งโซนซ้ายขวาหรือเอาท์ดอร์รับแสงธรรมชาติ ลิ้มลองอาหารเมนูถูกปากทั้งแบบตะวันตก อาหารไทย และอาหารท้องถิ่นจากเหนือจรดใต้หมุนเวียนเมนูเด็ด อย่าง น้ำพริกหนุ่มรสจัดจ้าน รับประทานกับหมูปิ้งและไส้อั่ว รวมไปถึงบุฟเฟ่ต์นานาชาติ และเมนูอะลาคาร์ทให้เลือกอิ่มได้ไม่อั้น พร้อมเครื่องดื่มต่างๆ และค็อกเทลที่ปรุงด้วยสมุนไพรเก็บสดใหม่ปลูกในโรงแรม ไม่ว่าจะเลือกพื้นที่ที่ให้บริการในร่มหรือกลางแจ้ง สามารถนำสัตว์เลี้ยงไปด้วยได้เช่นกัน อีกห้องอาหาร Fish House Restaurant & Bar อาคารไม้ที่ได้รับการออกแบบให้สามารถเพลิดเพลินวิวธรรมชาติใกล้ชิดทะเล ผ่านบานหน้าต่างทรงสูงที่สามารถเปิดโล่งรับลมทะเลสดชื่น มอบประสบการณ์แสนพิเศษสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งวิถีชีวิตชาวเลผ่านตัวบ้าน และการตกแต่งด้วยโคมไฟเพดานขนาดใหญ่ดีไซน์สะดุดตา ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องมือประมง ความสดใหม่ของวัตถุดิบส่งตรงจากทะเลแบบวันต่อวัน นำมารังสรรค์เป็นอาหารจานหลักในสไตล์อาหารสเปนผสมผสานไทยฟิวชั่น ผ่านประสบการณ์อันยาวนานของเชฟระดับห้องอาหารมิชลินสตาร์ เสิร์ฟเมนูอาหารสไตล์ Sharing Platter ด้วยคอนเซ็ปต์สนุกๆ ที่ต้องการให้ครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ได้มีช่วงเวลาแห่งความสุขเอนจอยกับการรับประทานอาหารร่วมกัน เปิดประสบการณ์แห่งรสชาติใหม่ๆ อย่าง Signature Cold Seafood Platters and Towers ทาวเวอร์ทะเลสดจุใจด้วยหอยนางรมตัวโต กุ้งและล็อบสเตอร์สดๆ ผสานกับรสชาติเฉพาะตัวอันเป็นเอกลักษณ์ อาทิ เมนู The Black Paella ข้าวผัดสเปนพอร์ชั่นใหญ่นำดีหมึกทำเป็นซอสเพิ่มรสชาติ เสิร์ฟพร้อมปลาหมึกย่างทั้งตัวขนาดพอดีคำ ผัดกับพริก Piparras Peppers และซอส ali-oli เช่นเดียวกับเมนู Grilled Octopus with Rosemary Potato Confit หรือเมนู Gambas Ajillo กุ้งปรุงรสด้วยกระเทียม พาสลีย์สับละเอียด พร้อมพริกสับซ่อนความเผ็ดร้อน นอกจากนี้ยังมี Curry Crab Roll, Sea Bass Ceviche และของหวานอย่าง Char-Grilled Pineapple Sundae ปิดท้ายมื้อพิเศษ ทางด้านเครื่องดื่มค็อกเทลที่ได้แรงบันดาลใจจากท้องทะเล อาทิ Tides & Waves เมนูค็อกเทลแนวรีเฟรชชิ่งด้วยส่วนผสมแมซเคิล น้ำมะนาวสด ตกแต่งด้วยผักชีและแตงกวา และ Anticipated Journey ที่โดดเด่นและแปลกใหม่ของวิสกี้ญี่ปุ่นอินฟิวส์ด้วยสาหร่าย พร้อมเติมรสชาติเฉพาะตัวด้วยน้ำแร่ท้องถิ่น, Beyond The Sea, The Sea Cucumber และยังมีอีกหลากหลายเมนูให้ได้ลิ้มลอง ณ บาร์เครื่องดื่มของ Fish House Restaurant & Bar แห่งนี้ ผ่อนคลายจิบค็อกเทลที่ SHADES Ocean Lounge and Pool Bar บาร์เล็กๆ ริมสระน้ำและชายหาด ที่เติมเต็มช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหนก็เสิร์ฟได้ในสระน้ำ พร้อมบริการนวดเท้าไปพร้อมๆ กับชิมรสชาติของไอศกรีมหวานเย็นชื่นใจ หรือนอนอาบแดดจิบมาการิต้าสักแก้ว ก่อนเติมความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มสไตล์ทิกิจิบคู่กับอาหารทานเล่น อย่าง แซนวิช พิซซ่า จากนั้นค่อยปล่อยพลังเบาๆ กับเครื่องเล่นที่เตรียมไว้เอนเตอร์เทน อย่าง โต๊ะปิงปอง กิจกรรมชายหาด หรือออกลีลาสุดมันส์ไปตามจังหวะบีทดนตรีจากดีเจ อุ่นเครื่องก่อนไปจัดเต็มด้วยมื้อเย็น หรือจะเป็นเดทไนท์แสนโรแมนติก ทุกความต้องการเนรมิตให้คุณได้ที่นี่  HOM Baking Company เสิร์ฟเบเกอรี่อบสดใหม่ให้รสชาติละมุนชวนฝัน การได้มาเยือนคิมป์ตัน คีตาเล หากพลาดการลิ้มรสชาติเบเกอรี่ซิกเนเจอร์เหมือนมาไม่ถึง เรียกว่า "ครัวซองต์" เป็นเมนูขนมอบขึ้นชื่อความอร่อยล้ำฉ่ำเนย กรอบนอกนุ่มในและมีหลายรสชาติให้ลิ้มลอง อีกทั้งยังได้สนุกสนานรับความรู้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปกับเวิร์กช็อปเบเกอรี่ และทำน้ำผลไม้สกัดเย็น พร้อมเมนูสุดสร้างสรรค์มากมายไปกับเชฟ อีกเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคิมป์ตัน คีตาเล ที่สรรสร้างโปรแกรมไลฟ์สไตล์ให้ผู้เข้าพักมีส่วนร่วมในวันสบาย ใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกันอย่างมีคุณค่า และถือว่าเป็นอีกดีเอ็นเอที่มุ่งมั่นนำเสนอประสบการณ์แห่งความประทับใจให้เป็นที่น่าจดจำเสมอ เริ่มด้วย Morning Kickstart จิบกาแฟหรือชาอุ่นๆ สักแก้ว วอร์มร่างกายให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า เริ่มต้นเช้าของวันพักผ่อนที่สดใส ไปจนถึง กิจกรรม Kimpton’s Social Hour ช่วงเวลาพิเศษยามเย็นเอนจอยกับปาร์ตี้ค็อกเทล เปิดพื้นที่ในการพบปะสังสรรค์ทั้งเพื่อนเก่าเพื่อนใหม่ สำหรับโปรแกรมพิเศษ Kimpton Kitalay Samui’s Furry Guest Programme และ Pet Spa Day สำหรับเพื่อนซี้สี่ขาโดยเฉพาะ พร้อม คลาสเวิร์กช็อปสำหรับครอบครัวและเด็กน้อย อาทิ เวิร์กช็อปทำเบเกอรี่ ช็อกโกแลต ขนมหวาน, คลาสทำเครื่อมดื่มค็อกเทล,

โกจิ คิทเช่น + บาร์ ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติชั้นนำของ โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค เพิ่มความพิเศษในมื้อบุฟเฟ่ต์สุดสัปดาห์ ด้วยเมนูอาหารอิตาเลียนขึ้นชื่อจากแคว้นชื่อดังต่างๆ ตั้งแต่เหนือจรดใต้ของประเทศอิตาลี ที่อยากชวนให้มาเปิดประสบการณ์แห่งสุนทรียรส ลิ้มลองอาหารนานาชาติรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ได้ตลอดปี 2565 เริ่มกันด้วย อาหารอิตาเลียนจากแคว้นซิซิลี ที่เชฟนำเสนอเมนูอิตาเลียนสไตล์ซิซิเลียน (Sicilian) แบบดั้งเดิม รังสรรค์ด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างยอดเยี่ยม ให้ได้เพลิดเพลินไปกับเมนูไฮไลท์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเมนู สลัดบูราต้าแบบดั้งเดิม, เมนูข้าวทอดสไตล์อิตาเลียน, ปลากระโทงแทงดาบย่างเสิร์ฟพร้อมกับสตูว์ผักและเลมอนสด สำหรับท่านที่ชอบทานพาสต้า พลาดไม่ได้กับพาสต้าโฮมเมด อย่าง กัมเบโอ รอสโซ่ (ราวีโอลี่กุ้งแดงราดด้วยซอสกุ้งล็อบสเตอร์) และ พาสต้ามะเขือม่วงย่าง (Casarecce alla norma) คลุกเคล้ากับซอสเปเปอรอนซิโน่รสชาติเผ็ดเล็กน้อยและชีสนมแกะ นอกเหนือจากนี้ยังมีพิซซ่าหลากหลายท็อปปิ้ง เช่น พิซซ่าหน้าซาลามี่แบบเผ็ด หรือ พิซซ่าคาโปนาต้า สำหรับของหวานสามารถเลือกทานได้หลากหลาย เช่น ทีรามิสุ, ขนมแป้งทอดแคนโนลีแบบดั้งเดิม ที่ทำสดใหม่ทุกวัน และ เจลาโต้ ไอศกรีมอิตาเลียนแท้ๆ เสิร์ฟพร้อมกับบิสกิต และเติมเต็มความสุขในมื้ออาหารด้วยแพ็คเกจเครื่องดื่ม พิเศษ Bellini (เบลลินี) แบบไม่อั้นรวม ในราคาเพียง 990++ บาท ต่อท่าน เท่านั้น  โปรโมชั่นอาหารอิตาเลียนจากแคว้นซิซิลีนี้ ให้บริการเพิ่มเติมในไลน์บุฟเฟ่ต์อินเตอร์เนชั่นแนล ทุกวันศุกร์ - วันอาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม จนถึง 27 มีนาคม 2565  บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ วันศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 17.30 - 22.00 น. ราคา 2,199++ ต่อท่าน  บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน วันเสาร์ เวลา 11.30 – 14.30 น. ราคา 2,199++ ต่อท่าน  บุฟเฟ่ต์มื้อบรันซ์ วันอาทิตย์ เวลา 12.00 – 14.30 น. ราคา 2,500++ ต่อท่าน  ▶️ สมาชิกแมริออท บอนวอยและคลับแมริออทรับส่วนลดตามสิทธิ์หน้าบัตร ☎️ สอบถามเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งโทร. 0 2059 5999 อีเมล restaurant-reservations.bkkqp@marriotthotels.com   หรือติดต่อผ่านช่องทาง 👇 🌐 เว็บไซต์ www.bangkokmarriottmarquisqueenspark.com 🌐 เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/GojiKitchenAndBar/  🌐 หรือเพิ่มเราเป็นเพื่อนในไลน์ @gojikitchenbar

ทั้งๆ ที่ไม่ใช่อาหารแปลกใหม่อะไร แต่นาทีนี้ดูเหมือนจะไม่มีขนมอบชนิดไหนมาแรงเท่า “ครัวซองต์” ขนมอบที่โดดเด่นตั้งแต่รูปร่างหน้าตา ไปจนถึงกลิ่น รส และเนื้อสัมผัส ว่ากันว่า ในบรรดาขนมแป้งอบทั้งหลาย ครัวซองต์ คือสิ่งที่ทำยากที่สุด เพราะต้องรีดแป้งพับทบสลับกับชั้นเนย พับแล้วพับอีกตามสูตรออริจินัลคือ ให้ได้ 81 ชั้น โดยที่เนยต้องไม่ละลายปนกับแป้งขณะรีด เนยต้องละลายในขั้นตอนการอบเท่านั้น อุณหภูมิของสถานที่ที่ทำจึงควรอยู่ที่ประมาณ 18-20 องศาเซลเซียส ลืมการทำในอุณหภูมิห้องปกติอย่างเมืองไทยไปได้เลย เพราะเนยกับแป้งคงผสมกันจนกลายเป็นขนมปังสูตรอื่น การบ่มแป้งก่อนอบก็ห้ามพลาด ทั้งอุณหภูมิและเวลา อบสุกแล้วยังมีคนรอดูอีกว่า เนื้อในครัวซองต์เป็นโพรงสวยขนาดไหน เพราะนั่นหมายถึงความประณีตของคนรีดแป้ง จนมีเจ้าของสูตรครัวซองต์คนหนึ่งกล่าวไว้ว่า “ไม่มีวิธีใดที่จะซ่อนข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในกระบวนการทำงานของคุณเมื่อทำครัวซองต์” ครัวซองต์แต่ละชิ้นจึงต้องอาศัยความใจเย็น อดทน ประณีต ฝึกฝน และประสบการณ์ เราเคยจำกันว่า ครัวซองต์ คือขนมปังที่มีรูปร่างคล้ายจันทร์เสี้ยว (หรือบางคนแอบเรียกว่า ขนมปังเขาควาย) ตามความหมายตรงตัวของคำว่า Croissant ในภาษาฝรั่งเศส ที่แปลว่า 'จันทร์เสี้ยว' แต่ดูเหมือนครัวซองต์ที่เห็นๆ กันมากยุคนี้ จะไม่ได้มีหน้าตาอย่างนั้น บ้างก็ว่าขนมปังเขาควายหรือจันทร์เสี้ยวนั้น คือครัวซองต์ที่ใช้มาการีน หรือเรียกว่าครัวซองต์ธรรมชาติ (croissant nature) แต่ครัวซองต์ตัวอวบๆ ที่ขึ้นรูปเป็นทรงตรงๆ ปลายไม่งองุ้ม อย่างที่เห็นกันตอนนี้ ทำจากเนยสด (croissant au beurre) ซึ่งนุ่มกว่า หอมกว่า

เมื่อเอ่ยถึงอาหารเพื่อสุขภาพ หรืออาหารของคนลดน้ำหนัก “แป้ง” ก็ดูจะกลายเป็นผู้ร้ายที่ใครๆ ก็พยายามลด ละ เลี่ยง คนที่ให้ความสนใจเรื่องอาหารการกินและสุขภาพส่วนใหญ่ จึงหันไปหาอาหารประเภทแป้งไม่ขัดสีจำพวกข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ซึ่งมีประโยชน์มากกว่า จนเมื่อมีกระแสการลดน้ำหนักแบบ คีโตเจนิก (Ketogenic diet) ที่จำกัดการกินแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตให้เหลือเพียงแค่ 5% ร่วมกับการจัดสรรสัดส่วนของสารอาหารอื่นๆ ทั้้งไขมันและโปรตีนอย่างเคร่งครัด “อาหารแบบคีโต” ก็เริ่มเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะ “ขนมปังไร้แป้ง” ที่เข้ามาเติมเต็มและเป็นทางเลือกใหม่ให้คนที่โหยหาขนมปัง   ขนมปังแห่งยุค ขนมปังทั่วไปทำจากแป้งสาลี ขนมปังไร้แป้ง แปลว่าไม่ใช้แป้ง แล้วจะใช้อะไรล่ะ วัตถุดิบหลักของขนมปังไร้แป้ง หรือที่มักเรียกกันว่า “ขนมปังคีโต” นั้นมีอยู่หลายชนิด ส่วนใหญ่จะเป็น อัลมอนด์ผง มะพร้าวผง โอ๊ตไฟเบอร์ (oat fiber) เมล็ดแฟลกซ์ป่น (flaxseed) ไซเลียมฮัสก์ (pysllium husk) และธัญพืชต่างๆ   อัลมอนด์ผง หรือแป้งอัลมอนด์ ก็คือเมล็ดอัลมอนด์บดละเอียดจนกลายเป็นผงแป้ง คุณค่าทางอาหารเหมือนการกินอัลมอนด์เป็นเมล็ดๆ อุดมด้วย วิตามินอี แมกนีเซียม โพแทสเซียม และไขมันดี มะพร้าวผง หรือแป้งมะพร้าว คือเนื้อมะพร้าวที่คั้นน้ำออกแล้ว และอาจสกัดน้ำมันออกด้วย แล้วผ่านกรรมวิธีต่างๆ จนกลายเป็นผงแป้ง ซึ่งจะยังคงมีกลิ่นหอม ยังมีกากใยหรือไฟเบอร์อยู่รวมทั้งยังคงมีสารอาหารอยู่ด้วย ทั้งโปรตีน ธาตุเหล็ก และกรดไขมันที่มีความยาวปานกลาง ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยลดน้ำหนัก   โอ๊ตไฟเบอร์ หรือเส้นใยข้าวโอ๊ต เป็นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ มีโปรตีน มีเบตากลูแคน (beta glucan) สารต้านอนมูลอิสระที่วงการแพทยย์ ยอมรับว่าช่วยเรื่องการดูแลรักษาสุุขภาพได้ และเชื่อว่าช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้ทางอ้อม   เมล็ดแฟลกซ์ หรือ เมล็ดลินิน ชาวยุโรปนำมากินบำรุงกำลังมานาน มีกากใย มีฤทธิ์เป็นยาระบาย น้ำมันในเมล็ดแฟลกซ์เป็นไขมันดี มีโอเมก้า 3 และ 6 ขนมปังของคนยุโรปแทบทุกร้านต้องมีส่วนผสมของเมล็ดแฟลกซ์ การใส่เมล็ดแฟลกซ์ลงในส่วนผสมนอกจากเป็นการเพิ่มคุณค่าทางอาหารแล้ว ยังช่วยให้ขนมปังนุ่มหอมมัน และยืดอายุการเก็บรักษาให้ยาวนานขึ้นด้วย   ไซเลียมฮัสก์ หรือเทียนเกล็ดหอย คือเปลือกหุ้มเมล็ดของต้นไซเลียมหรือว่านเทียนเกล็ดหอย มีใยอาหารที่มีคุณสมบัติในการดักจับไขมันและน้ำดีในระบบทางเดินอาหาร และมีสรรพคุณทางยาอีกมากมาย   อิริ ทริทอล (erythritol) เป็นสารให้ความหวานที่มีรสชาติเหมือนน้ำตาลทรายมากที่สุด ไม่ให้พลังงาน ไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด เป็นน้ำตาลแอลกอฮอล์ ที่ได้จากกระบวนการหมักกลูโคสด้วยยีสต์ ปลอดภัยต่อระบบทางเดินอาหารมากกว่าไซลิทอล (xylitol) ซอร์บิทอล (sorbitol) เหล่านี้คือวัตถุดิบหลักๆ ที่มักนำมาใช้ทำขนมปัง ส่วนจะเติมไข่ เนย เกลือ และยีสต์ หรือไม่อย่างไรนั้น ก็แล้วแต่ว่าสูตรใครก็สูตรใคร   ไร้แป้ง ประโยชน์เพียบ แม้จะเรียกว่าขนมปังไร้แป้ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปราศจากแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตอย่างสิ้นเชิง ขนมปังไร้แป้งยังคงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่เพียงแต่น้อยมาก และส่วนผสมที่นำมาทำขนมปังล้วนมีสารอาหารอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่า ที่สำคัญคือ มุ่งเน้นในเรื่องให้พลังงานต่ำซึ่งขนมปังประเภทนี้ มักระบุอย่างชัดเจนว่า มีกี่แคลอรี มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน อย่างละกี่กรัม ตามวิถีของชนเผ่าคีโตหรือผู้ลดน้ำหนักแบบคีโตเจนิก ที่ต้องชั่งตวงวัดปริมาณสารอาหารที่จะกินอย่างเคร่งครัด จึงกลายเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคทั่วไปด้วยเช่นกัน สิ่งสำคัญที่สุดของขนมปังไร้แป้งคือ ทำอย่างไรให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสเหมือนขนมปังจริงๆ เพราะคนที่ชอบกินขนมปังโดยมากแล้ว คือหลงใหลในความนุ่มหอม และเนื้อสัมผัสที่หนุบหนับ ความจริงแล้ว เมื่อขนมปังไม่ได้ทำจากแป้งสาลี ก็คงไม่อาจให้เนื้อสัมผัสแบบเดียวกันเป๊ะๆ อย่างขนมปังทั่วไปที่คุ้นเคย นั่นคือโจทย์ใหญ่ที่ผู้ผลิตต่างคิดค้น ทดลอง จนมั่นใจว่า ได้ขนมปังที่มีความนุ่ม หอมไม่ต่างจากขนมปัง ส่วนเนื้อสัมผัสที่พบส่วนใหญ่ จะเหนียวกว่าขนมปังธรรมดาเล็กน้อย และนี่คือแบรนด์ขนมปังไร้แป้งที่ได้รับการพิสูจน์มาจากผู้บริโภคมากมายแล้วว่า แทบไม่ต่างจากขนมปังแบบเดิมๆ ที่คุ้นเคย ----------🍞----------   Dancing With A Baker ผู้ผลิตขนมปังไร้แป้งเจ้าแรกๆ ของไทย เปิดขายมาราวๆ ปีเศษ เริ่มต้นจากกำลังผลิตขนมปังเพียง 4 ชิ้นต่อวัน จนปัจจุบัน รับยอดสั่งซื้อวันละกว่า 100 ออร์เดอร์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของแดนซิง วิธ อะ เบกเกอร์ หลักๆ มี 3 ชนิด ตั้งชื่ออย่างน่ารักว่า น้องเหลี่ยม น้องกลม และ น้องเลิฟ “น้องเหลี่ยม” และ “น้องกลม” เป็นขนมปังแผ่นแบนๆ ใหญ่ๆ รูปร่างสี่เหลี่ยมและกลมๆ ตามชื่อทำจากผงอัลมอนด์ ผงมะพร้าว เมล็ดแฟลกซ์ เนยจืด วีตโปรตีน ไข่ไก่ เกลือหิมาลายัน อิริทริทอล น้ำมันมะกอก และยีสต์ ชิ้นขนาด 150 กรัม มีคาร์โบไฮเดรต 4 กรัม ไฟเบอร์ 12 กรัม โปรตีน 39 กรัม ไขมัน 18 กรัม ให้พลังงาน 378 แคลอรีต่อชิ้น ซึ่งขนมปังหนึ่งชิ้นขนาดใหญ่เท่าสมุด แบ่งกินได้ 2-3 ครั้ง “น้องเลิฟ” ทำจากโอ๊ตไฟเบอร์เป็นหลัก เป็นสูตรล่าสุดที่พัฒนาขึ้นจนคล้ายขนมปังปกติได้มากที่สุด รูปร่างหน้าตาเหมือนขนมปังที่ใช้ทำฮอตด็อก ชิ้นขนาด 70 กรัม มีคาร์โบไฮเดรต 2 กรัม ไฟเบอร์ 10 โปรตีน 19 และไขมัน 7 กรัม ให้พลังงาน 150 แคลอรี และสื่งที่น่าสนใจคือบรรดาลูกค้าของแดนซิง วิธ อะ เบกเกอร์  นำขนมปังไปสร้างสรรค์กันอย่างสุดอลังการ ทำให้มีรสชาติที่หลากหลาย ลืมคำว่าน่าเบื่อของอาหารเพื่อสุขภาพไปได้เลย   แดนซิง วิธ อะ เบกเกอร์ มีวางขายตามร้านขายอาหารเพื่อสุขภาพหลายแห่ง และช่องทางออนไลน์ www.dancingwithabaker.com หรือเฟซบุ๊ก dancingwithabaker ----------🍞----------   Pung Pae Ver ปังเป๊ะเวอร์ เรียกตัวเองง่ายๆ ว่าเป็น "ขนมปังคีโต” เป็นขนมปังแบบมีไส้ ทั้งคาวหวาน ตัวขนมปังหรือบันทำจากผงอัลมอนด์  ไข่ไก่ ไซเลี่ยมฮัสก์ และงาขี้ม่อน ใช้อิริทริทอลให้ความหวาน ไม่ใส่ยีสต์ ไม่ใช้ผงฟู ไม่มีไขมันทรานส์ และไม่มีกลูเต็น เปิดขายมาแล้วปีเศษและยังคงสร้างสรรค์รายการขนมปังใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ความโดดเด่นของปังเป๊ะเวอร์ คือมีไส้ให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ไส้พื้นฐานอย่าง สังขยา ไข่เค็มลาวา ไก่พริกเผา ไปจนถึง ไส้ไก่แบบข้าวมันไก่ แกงกะหรี่ไก่ กราแตงกุ้ง แซลมอนไข่เค็ม เป็นต้น ขนมปังแต่ละรสชาติให้พลังงานไม่เท่ากัน เช่น ขนมปังเนยโฉดยอดฮิต ครีมเนยแน่นๆ 1 ชิ้น 161 แคลอรี คาร์โบไฮเดรต 2 กรัม ไส้ที่แคลอรีสูงสุด เห็นจะเป็น ไข่เค็มลาวา 1 ชิ้น 213 แคลอรี คาร์โบไฮเดรต 3.3 กรัม ส่วนที่แคลอรีต่ำสุดๆ คือ พิซซาไก่ชีส เพียง 78 แคลอรี คาร์โบไฮเดรต 2.5 กรัม ฯลฯ เลือกพิจารณากันได้ตามอัธยาศัย ขนมปังของปังเป๊ะเวอร์มีวางขายตามร้านอาหารเพื่อสุขภาพ และทางออนไลน์ที่ www.pungpaever.com หรือเฟซบุ๊ก pungpaever ----------🍞----------   Club No Sugar คลับ โน ชู การ์ ไม่ใช่แบรนด์ขนมปัง แต่คือร้านอาหารแนวใหม่ที่มีอาหารแบบคีโตเจนิกให้บริการอย่างเต็มอิ่ม มีครัวปรุงอาหารคีโตโดยเฉพาะ แยกจากครัวที่ปรุงอาหารปกติทั่วไป รายการอาหารคีโตที่น่าสนใจมีมากมาย เช่น ข้าวดอกกะหล่ำผัดไข่ ข้าวบุกผัดกุนเชียง สปาเกตตีไส้อั่วซอสกะเพรา พิซซาหน้าไข่เค็ม บันเบอร์เกอร์ รวมถึงขนมหวานทั้งขนมไทย ขนมเค้ก ขนมปัง มัฟฟิน เบเกอรีคีโตนานาชนิด ขนมไหว้พระจันทร์แบบคีโตก็มี ที่นี่ยังมีซูเปอร์มาร์เก็ตที่รวบรวมอาหาร ขนม และวัตถุดิบสำหรับการทำอาหารคีโตเจนิกไว้อย่างครบครัน ความจริงแล้วอาหารแบบคีโตเจนิก คนทั่วไปก็สามารถรับประทานได้ โดยเฉพาะอาหารที่ไม่มีแป้ง ไม่มีน้ำตาล เพียงแต่ควรระวังอาหารที่มีสัดส่วนไขมันสูง อย่างไรก็ตาม ที่ คลับ โน ชูการ์ ก็มีรายการอาหารปกติทั่วไปให้บริการด้วย Club No Sugar ถนนพระราม 3 (ระหว่างซอยพระรามสาม 39-41) โทร. 06 3146 8224 สาขาเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา โทร. 06 3883 8111 เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น. สั่งอาหารผ่านไลน์ ID: @CLUBNOSUGAR เฟซบุ๊ก: Club No Sugar ----------🍞----------   I Bake You Take ขนมปังเพื่อสุขภาพอีกหนึ่งแบรนด์ที่คนเป็นเบาหวานกินได้ ชนเผ่าคีโตกินดี เป็นขนมปังเปล่าๆ แบบขนมปังปอนด์ หลักๆ มีให้เลือก 3 แบบคือ “Yeast bread” ทำจากเมล็ดแฟลกซ์ป่น ผงอัลมอนด์ โอ๊ตไฟเบอร์ ใส่ไข่ เนย และมีกลูเตน ให้พลังงาน 78 แคลอรี มีคาร์โบไฮเดรต 1.3 กรัม ไขมัน 4 กรัม โปรตีน 8.3 กรัม, “Nut and seed bread” ทำจากโอ๊ตไฟเบอร์ มีส่วนผสมของเมล็ดแฟลกซ์ป่น เมล็ดเชีย งาขาว งาดำ เมล็ดฟักทอง อัลมอนด์สไลซ์ ใส่เนย ไข่ และมีกลูเตน ให้พลังงาน 89 แคลอรี มีคาร์โบไฮเดรต 2 กรัม ไขมัน 4.7 กรัม โปรตีน 8.8 กรัม, “Keto soft buns” ขนมปังก้อนกลม ทำจากผงอัลมอนด์ ผงมะพร้าว ไซเลียมฮัสก์ ใส่ไข่ขาว เกลือหิมาลายัน ใช้เนยแท้ ไม่มีกลูเตน ให้พลังงาน 188 แคลอรี มีคาร์โบไฮเดรต 2 กรัม ไขมัน 15.6 และโปรตีน 7.6 กรัม ซึ่งขนมปังของ ไอเบกยูเทกหอม นุ่มนิ่ม ให้รสสัมผัสคล้ายขนมปังปกติมากๆ นอกจากนี้ ยังมีแยมสตรอเบอรีโฮมเมดผสมเมล็ดเชียไม่ใส่น้ำตาล และชีสเค้กหน้าไหม้ Keto Basque burnt cheese cake ไม่มีแป้ง ไม่มีน้ำตาล ที่ทำสดใหม่ โดยสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊ก www.facebook.com/OranaiIBYT ----------🍞----------   ที่มา: Mercedes ME Magazine 03/2020

บริษัท เวิลด์ รีวอร์ด โซลูชั่น จำกัด นำโดย คุณจักรพันธ์ รัตนเพชร ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ สร้างสรรค์บริการพิเศษส่งความอิ่มอร่อยถึงบ้านตอบรับวิถีชีวิตแบบ New Normal ด้วย Silver Voyage White Glove Delivery บริการจัดส่งอาหารระดับพรีเมียมส่งตรงถึงบ้านคุณ ด้วยความปลอดภัยด้านอนามัยสูงสุด Silver Voyage White Glove Delivery บริการจากแบรนด์ Silver Voyage Club แบรนด์ผู้สร้างประสบการณ์เพื่อการจดจำ ภายใต้การบริหารของบริษัท เวิลด์ รีวอร์ด โซลูชั่น จำกัด บริการที่เริ่มต้นจากแนวคิดฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน กับพันธมิตรร้านอาหารและภัตตาคารชั้นนำ ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยวางรูปแบบการให้บริการที่แตกต่างจากการจัดส่งอาหารทั่วไป ด้วยคุณภาพที่เหนือระดับตั้งแต่จัดส่งโดยทีมงานสวมถุงมือขาว ที่เน้นความสะอาด ปลอดภัย ไร้เชื้อ ได้คัดเลือกร้านอาหารชั้นนำชื่อดังที่มีครัวมาตรฐานสูงของกรุงเทพฯ อาทิ ร้านสุพรรณิการ์ กับอาหารไทยรสชาติต้นตำรับอาหารไทยพื้นบ้านสูตรโบราณ, Nara Thai Cuisine อาหารไทยร่วมสมัยระดับพรีเมียมที่เน้นความกลมกล่อมของรสชาติ, Coffee Bean by Dao อาหารไทยและนานาชาติกับรูปลักษณ์และรสชาติที่ทุกคนคุ้นเคย, Water Library อาหารสไตล์ตะวันตกรสชาติล้ำลึก, ส.โภชนา สั่งได้ทั้งอาหารจีนและอาหารไทยรสชาติเข้มข้น, Hotto Bun ที่มี ‘บันไส้ทะลัก’ เป็นเมนูซิกเนเจอร์อร่อยเด็ด หรือสำหรับคนชอบชาบู สามารถเลือกเซ็ตพิเศษ ทั้งวัตถุดิบและหม้อครบชุดให้รับประทานกันได้ทั้งครอบครัว หรือถ้าอยากลองอาหารระดับมิชลินก็สั่งได้กับ Chim by Siam Wisdom อาหารไทยประยุกต์โดยเชฟระดับมิชลินสตาร์ เป็นต้น โดย Silver Voyage White Glove Delivery ให้บริการจัดส่งอาหารจากร้านโปรดถึงทุกบ้านและทุกคอนโด ในแบบจัดเซ็ตพร้อมรับประทาน ด้วยหลักปฏิบัติสำคัญในการจัดส่ง 3 ประการคือ 1. ใช้รถซีดานจัดส่งอาหารเพื่อความปลอดภัย สะอาด และปราศจากฝุ่นและการปนเปื้อนระหว่างการส่ง รถลิมูซีนจะผ่านการพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อไวรัสทุกเที่ยวการส่ง 2. จัดการแยกประเภทของอาหารเพื่อลดการปนเปื้อนต่างๆ 3. จัดส่งอาหารโดยพนักงานสวมถุงมือขาว ที่เน้นความสะอาดไร้เชื้อไวรัส มุ่งเน้นลดการสัมผัสให้น้อยที่สุดในการจัดส่งอาหาร   สิทธิพิเศษ • สำหรับเมนูอาหารร้านดัง เริ่มต้นเซ็ตเมนูที่ 1,000 บาท ค่าบริการจัดส่ง 350 บาทในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ถือบัตร Citi Mercedes Credit Card ฟรี! ค่าจัดส่ง 350 บาท เงื่อนไข • สำหรับผู้ถือบัตร Citi Mercedes Credit Card เท่านั้น เพียงแจ้ง Code: SVMC2021 จำกัด 200 สิทธิ์ สาขาที่ร่วมรายการ สอบถามเมนูและจองการส่งได้ง่ายๆ ผ่าน World Reward Solutions Concierge โทร. 0 2016 9975 หรือสั่งออนไลน์ได้ที่ http://whiteglove.worldrewardsolutions.com ติดตามข้อมูลต่างๆ ได้ที่ www.facebook.com/worldrewardsolutions ระยะเวลา • ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2564

สัมผัสความงามของท้องทะเล และอ้อมกอดแห่งธรรมชาติ ในบรรยากาศการพักผ่อนระดับห้าดาวได้ที่ บันยันทรี กระบี่ โรงแรมใหม่ล่าสุด ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นบนพื้นที่ส่วนตัวขนาด 26 ไร่ ตั้งอยู่บนชายหาดทับแขกที่ด้านหน้าเป็นวิวท้องทะเลอันดามันอันงดงาม ส่วนรอบข้างนั้นโอบล้อมด้วยร่มไม้นานาพรรณ และอากาศแสนบริสุทธิ์จากอุทยานแห่งชาติเขาหงอนนาค บันยันทรี กระบี่ ได้รับการออกแบบพื้นที่อย่างชาญฉลาด โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าพักเป็นสำคัญ นั่นคือการแยกพื้นที่ห้องพักและพื้นที่กิจกรรมต่างๆ ผ่านคลองธรรมชาติได้อย่างลงตัว สามารถตอบโจทย์การพักผ่อนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าคุณจะเลือกพักภายในห้องสวีท หรือวิลล่าที่กว้างขวาง จำนวน 72 หลัง ภายในถูกตกแต่งแบบทันสมัย ผสมผสานความเชื่อท้องถิ่นของทับแขกในดินแดนแห่งพญานาค พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกห้อง ทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนอันน่าประทับใจ พร้อมดื่มด่ำไปกับความโรแมนติกของวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย นอกจากนี้คุณยังสามารถเต็มอิ่มไปกับอาหารเลิศรสจาก 4 ห้องอาหาร ที่ทุกจานล้วนถูกรังสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะ เบิร์ดเนส จุดนั่งรับประทานอาหารและถ่ายภาพแห่งเดียวของจังหวัดกระบี่ ที่จะมาช่วยสร้างสีสันให้สังคมออนไลน์ของคุณ ได้จดจำกับภาพของรังนกขนาดใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านบนยอดไม้พร้อมด้วยวิวทะเลอันงดงาม เพื่อให้วันพักผ่อนของคุณและครอบครัวเป็นวันที่พิเศษที่สุด ที่นี่ยังได้เตรียมกิจกรรมต่างๆ ไว้ไห้ได้เพลิดเพลินมากมาย อาทิ บอร์ดแบบยืนพาย (Stand Up Paddle Board) การดำน้ำตื้น (Snorkeling) โยคะบนชายหาด การเดินออกกำลังกายหน้าหาดยามเช้า และออกกำลังกายในน้ำ หรือถ้าต้องการการออกกกำลังกายแบบอุปกรณ์ในร่ม ฟิตเนสเซ็นเตอร์ครบครันไปด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย หรือจะเลือกผ่อนคลายความเหนื่อยล้าไปกับ บันยันทรีสปา สปาหรูระดับโลก ที่มีสปาวารีบำบัดเพียงหนึ่งเดียวในกระบี่ เปิดประสบการณ์ศาสตร์แห่งน้ำผ่านสัมผัสทั้งห้า ที่จะทำให้คุณผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ เตรียมพร้อมก่อนทำทรีตเมนท์ที่ได้รับการเลือกสรรจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับความสุขและความผ่อนคลายที่สุด ส่วนแขกตัวน้อยที่มากับครอบครัว บันยันทรี กระบี่ พร้อมพาเปิดโลกแห่งความสนุกไปกับกิจกรรม และเครื่องเล่นมากมายที่คิดส์คลับ ภายในพื้นที่กว้างขวางทั้งแบบในตัวอาคารและด้านนอกอาคาร รวมไปถึงสวนน้ำขนาดย่อมที่จะทำให้เด็กๆ เพลิดเพลินได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ เช่นเดียวกันกับสมาชิกทุกคนในครอบครัว   สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตร Citi Mercedes Credit Card • รับส่วนลด 35% จาก Best Available Rate (BAR Rate) • รับส่วนลด 20% สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) • รับส่วนลด 20% สำหรับสปา (ยกเว้น Special Promotion และ Facial Treatments) เงื่อนไข • เมื่อชำระด้วยบัตร Citi Mercedes Credit Card เท่านั้น • เมื่อทำการจอง 16 ธันวาคม 63 - 31 มีนาคม 64 และเข้าพักระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม 63 - 30 มิถุนายน 63 • ไม่สามารถเข้าพักได้ 29 ธันวาคม 63 - 2 มกราคม 64 และ 10 - 17 เมษายน 64 • ไม่สามารถร่วมรายการโปรโมชั่นอื่นของทางโรงแรม และไม่สามารถใช้ในการจองเป็นกลุ่มตั้งแต่ 10 ห้อง/วิลล่าขึ้นไป • จ่ายเต็มจำนวนเมื่อทำการจองและไม่สามารถรีฟันด์ได้ • เงื่อนไขเป็นไปตามที่โรงแรมกำหนด สาขาที่ร่วมรายการ บันยัน ทรี กระบี่ 279 หมู่ 3 ตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 81180 โทร: 075 811 888, อีเมล: Krabi@banyantree.com, เว็บไซต์: www.banyantree.com ระยะเวลา: 19 ธันวาคม 63 - 31 มีนาคม 64 ------------------------------- WORD: gorgeousploy Photo: Banyan Tree Krabi ที่มา: MecedesCardJournal Magazine Issue04/2020

เขาใหญ่…จุดหมายท่องเที่ยวอันดับต้นๆ เพื่อการพักผ่อนที่ได้รับความนิยม สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติผืนป่า ดินแดนมหัศจรรย์แห่งธรณีวิทยา ที่มีระบบนิเวศน์อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เสน่ห์ของเทือกเขาที่สลับซับซ้อนเขียวตลอดปี อันมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติงดงาม และเดินทางไม่ไกลนักจากกรุงเทพฯ ทำให้ เมอเวนพิค โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท เชนโรงแรมและรีสอร์ทสุดหรูชื่อดังระดับโลก ผู้มอบประสบการณ์การพักผ่อนสุดเอ็กคลูซีฟ ยกระดับพื้นที่ ‘มาย โอโซน เขาใหญ่’ สู่ความเป็นสากล ด้วยการเปิดตัว “เมอเวนพิค รีสอร์ท เขาใหญ่” (Movenpick Resort Khao Yai) รีสอร์ทหรูแห่งใหม่ มีสไตล์อันโดดเด่นภายใต้แบรนด์เมอเวนพิค แห่งแรกของเขาใหญ่ และแห่งที่ 10 ของประเทศไทย จากถนนมิตรภาพค่อยไต่ระดับความสูงราวร้อยกว่าเมตร สู่ดินแดนสุดอลังการ รีสอร์ทราวดั่งปราสาทคลาสสิกในเทพนิยายแถบยุโรป ตั้งตระหง่านทอดตัวยาวบนเนินเขียวกว้างสะดุดตา ล้อมรอบด้วยวิวภูเขาแบบ 360 องศา บนพื้นที่กว่า 1,300 ไร่ ที่ไม่ว่ามองไปองศาไหนให้ได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงาม เงียบสงบ ด้วยความลงตัวของแลนด์สเคปที่ถูกจัดวางกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ราวดั่งภาพวาดในโปสการ์ด เสมือนได้มาเยือนคฤหาสน์ในต่างแดน ท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ที่จะได้สัมผัสอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ในอุณหภูมิเฉลี่ย 23 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิจะยิ่งลดต่ำลง ทำให้สูดลมหายใจได้อย่างสดชื่นสุดปอด หอมกลิ่นโอโซนบริสุทธิ์อันดับ 7 ของโลก และยังใกล้กับที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อันได้รับการคุ้มครองให้เป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก อีกด้วย ด้วยระยะทางเพียง 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ เมอเวนพิค รีสอร์ท เขาใหญ่ ได้กลายเป็นจุดหมายขึ้นชื่อสร้างความประทับใจ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เรายังไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศ ด้วยสถานการณ์เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวไทยพร้อมใจกันมาเช็คอิน อวดภาพสวยๆ ช่วงชิงพื้นที่บนโซเชี่ยลมีเดียก่อนใคร ความงดงามตั้งแต่สถาปัตยกรรมของรีสอร์ท การตกแต่งสวนสไตล์ยุโรป พื้นที่โล่งกว้างแบบพาโนราม่าที่ถูกโอบกอดด้วยขุนเขา จนไปถึงการตกแต่งอันหรูหราภายในโถงอาคารและห้องพัก เสน่ห์ของรีสอร์ทสไตล์ยุโรปอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ราวกับยกแคว้นทัสคานีมาไว้ที่เขาใหญ่ ด้วยภูมิศาสตร์บริเวณนี้มีความลงตัวในทุกด้าน อันเป็นเอกลักษณ์มีความคล้ายคลึงหมู่บ้านชนบทของประเทศอิตาลี ทำให้รีสอร์ทแห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์คที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ สร้างความตื่นตาตื่นใจไม่น้อยให้กับนักท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายภาพ และพักผ่อนในบรรยากาศสุดชิลสบายๆ เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงวัย หรือแม้แต่คู่รักที่ไม่พลาดชวนกันมาอาบลมห่มดาว แก๊งก๊วนเพื่อนสาวชวนกันหนีฝุ่น PM2.5 หันหลังจากความเร่งรีบของเมืองหลวง มาสู่บรรยากาศปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำนั่งนอนชมวิวปราสาท หรือแม้แต่กิจกรรมแบบครอบครัวก็มีให้ได้เพลิดเพลินหลายรูปแบบ ในด้านสุขอนามัย เมอเวนพิค รีสอร์ท เขาใหญ่ ยังมอบความมั่นใจให้กับผู้เข้าพักตั้งแต่ก้าวแรก ด้วยมาตราฐานด้านสาธารณสุขไทย SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) ยึดหลักการดูแลรักษาความสะอาด และความปลอดภัยเป็นสำคัญ รวมทั้งยังเข้าสู่มาตราฐานด้านสาธารณสุขระดับสากล ALL SAFE อีกด้วย พนักงานทุกคนได้รับการอบรมเรื่องการดูแลความสะอาดอย่างเข้มข้น มีการฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อทุกที่ที่มีผู้ใช้บริการ และสวมใส่หน้ากากตลอดช่วงเวลาที่ให้บริการอีกด้วย ส่วนของห้องพัก จำนวนรวม 112 ห้อง พร้อมเปิดประตูให้แขกผู้เข้าพักได้สัมผัสประสบการณ์อันผ่อนคลายเหนือระดับ กับห้องพักที่โอ่งโถงสวยงามสุดตระการ พร้อมเครื่องใช้อำนวยความสะดวกครบครัน ในส่วนของรีสอร์ท มีจำนวนห้องพัก 62 ห้อง ภายใต้การตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์เรอเนสซองส์ และโมเดิร์นบาร็อค โดยเลือกใช้โทนสีอ่อนกลางผสมผสานกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เริ่มต้นตั้งแต่ ห้องดีลักซ์ (Deluxe Room) ขนาด 45 ตารางเมตร, ห้องเอ็กเซคคลูทีฟ ดีลักซ์ (Executive Deluxe) มีขนาด 55 ตารางเมตร, ห้องโอโซนสวีทแบบสองห้องนอน (Ozone Suite 2 Bedroom) ขนาด 170 ตารางเมตร และ ห้องเพนท์เฮาส์แบบสามห้องนอน (Penthouse 3 Bedroom) ขนาด 350 ตารางเมตร ทุกห้องมีระเบียงส่วนตัวกว้างขวาง มอบเพดานสูงรับกับกระจกบานกว้าง ให้ได้ชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของภูมิทัศน์สไตล์ทัสคานีชนบทแวดล้อมธรรมชาติอย่างเต็มตา พร้อมวิวสนามหญ้าบนกรีนพัตต์กอล์ฟผืนกว้างจากระเบียงห้องส่วนตัว โดยมีวิวภูเขายายเที่ยงเป็นฉากหลังสวยงาม หันหน้าสู่ทิศตะวันออก รับวิวพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องพัก เก้าอี้ โซฟา เตียงนอน รับกันแบบสไตล์ยุโรป ฟูกที่นอนหมอนนุ่มนอนสบาย ผ้าม่านระย้าบนหัวเตียงเสริมให้ยิ่งดูอลังการ ซุ้มโค้งครึ่งวงกลม แท่นวางตามแบบโรมันลวดลายหินปั้นสลักเสลาอ่อนช้อยตามแบบศิลปะของยุคสมัย ห้องน้ำซีทรูเซ็กซี่มาพร้อมอ่างอาบน้ำขาสิงห์ และพื้นหินอ่อนจากเมืองคาร์รารา (Carrara) ที่ศิลปินเอกของโลกหลายยุคเลือกใช้ เพื่อรังสรรค์ผลงานศิลปะมาสเตอร์พีซอันยิ่งใหญ่ โดยมีเอกลักษณ์ของลวดลายไปตามแหล่งธรรมชาติ ได้ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมที่ เมอเวนพิค รีสอร์ท เขาใหญ่ แห่งนี้ และ ส่วนของวิลล่า จำนวน 50 หลัง ถูกออกแบบให้เป็นหมู่บ้านบรรยากาศแบบทัสคานี ประเทศอิตาลี บนพื้นที่อันงดงามกลมกลืนไปกับธรรมชาติโดยรอบ วิลล่าแต่ละหลังได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างหรูหราโอ่อ่า ตัวบ้านใช้น้ำดินของพื้นที่นั้นๆ ผสมเข้ากันกับปูนนำมาฉาบเป็นผนังของตัวบ้านทำให้ได้สัมผัสพื้นผิวดิบๆ สีตุ่นๆ เทคนิคเฉพาะเสมือนบ้านชนบทแถบประเทศอิตาลีดั้งเดิม ปูพื้นหินอ่อนคาร์รารา มีพื้นที่ใช้สอยอย่างกว้างขวาง ซึ่งจะได้รับวิวที่แตกต่างถึง 3 วิว ลดหลั่นกันไปตามระดับความสูงที่เหลื่อมกันของบ้านบนเนินดิน นั่นคือ วิวเขา วิวสระว่ายน้ำ และวิวสนามกอล์ฟ พร้อมทั้งได้เพลิดเพลินไปกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ประกอบด้วย พูลวิลล่าการ์เด้น แบบ 2 ห้องนอน (Villa 2 Bedroom) ขนาด 180 ตารางเมตร, พูลวิลล่าการ์เด้น แบบ 3 ห้องนอน (Villa 3 Bedroom) ขนาด 220 ตารางเมตร, พูลวิลล่าแบบ 5 ห้องนอน (Pool Villa 5 Bedrooms) ขนาด 250 ตารางเมตร เหมาะมากสำหรับกลุ่มเพื่อนและครอบครัว ที่ไม่ควรพลาด! เมื่อมาเยือน เมอเวนพิค รีสอร์ท เขาใหญ่ นั่นคือการตื่นรับแสงอาทิตย์ยามเช้าอันอบอุ่น อาบแสงสีทองทั่วบริเวณสวนสวย อย่างที่ไม่มีอะไรบดบังสายตา ฟังนกส่งเสียงทักทายบินว่อนต้อนรับวันใหม่อันสดใส กิจกรรมเพื่อสุขภาพได้เริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายขยับแข้งขา การเดินอย่างมีคุณค่าแบบ “นอร์ดิกวอร์ค” เพื่อเพิ่มสเต็ปและความสนุกที่ต้องอาศัยแรงต้าน ทำให้การเดินพร้อมไม้นอร์ดิกหนึ่งคู่นั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะให้การเผาผลาญแคลอรี่ได้มาก และได้รับประโยชน์กับร่างกายทุกสัดส่วน อีกทั้งเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อแขน ขา หัวไหล่ ลำตัว รวมถึงอวัยวะภายในอย่างกล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือด เป็นการลดความตึงเครียด บรรเทาอาการทางระบบประสาทได้ดี หรือจะยืดเหยียดด้วย กิจกรรม “โยคะ” ให้ร่างกายได้ปรับสมดุลผ่อนคลายการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และหลั่งสารแห่งความสุข แม้แต่เอนจอยไปกับเครื่องออกกำลังกาย ที่ สปอร์ตคลับ ก็ได้เช่นกัน และอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์ ที่ดึงดูดให้นักกีฬากอล์ฟ ทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นจากทั่วโลก ต้องแวะเวียนมาใช้บริการ My Ozone Golf Club Khao Yai สนามกอลฟ์ 18 หลุม รูปแบบลิงค์คอร์สสนามแรกในประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 400 ไร่ ที่มีความคดเคี้ยวเป็นแนวกว้างอย่างมีมิติ เชื่อมต่อกันระหว่างหลุมหนึ่งไปอีกหลุมหนึ่ง สามารถมองเห็นหลุมอื่นๆ บนทัศนียภาพโล่งกว้าง และได้รับการยอมรับว่าเป็นกรีนที่ดีที่สุดในภาคอีสาน ความท้าทายของสนามนี้ คือการคำนวณทิศทางของการตีลูกให้ข้ามผ่านอุปสรรคแรงลมที่มีตลอดทั้งวัน My Ozone Golf Club ถือว่าเป็นสนามกอล์ฟที่มีแลนด์สเคปสวยที่สุดในเขาใหญ่ เงียบสงบ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามของวิวภูเขา วิวคฤหาสน์ ทุ่งดอกไม้ดาวกระจาย ทุ่งดอกคอสมอส หญ้าน้ำพุ ที่ช่วยเสริมบรรยากาศให้กับการเล่นกอล์ฟ และการถ่ายรูป อีกทั้งยังได้ชมวิวทุกทิศทางอย่างเต็มตาแบบ 360 องศา เปิดให้บริการ 6 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น ถัดจากตัวรีสอร์ทออกแบบทางเชื่อมสู่โซน สระว่ายน้ำ ที่มีทั้งสระกลางแจ้งและสระในร่ม เพิ่มเสน่ห์ด้วยสะพานยกระดับที่สามารถเดินข้ามยังสระว่ายน้ำอีกฟากฝั่ง บนสะพานนี้ยังเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวสวยของรีสอร์ตด้านสนามกอล์ฟ โดยรอบแบบ 360 องศา งดงามด้วยฉากหลังของหมู่บ้านคัสคานี่ ราวกับอยู่ในประเทศอิตาลีชนบทจริงๆ ไม่ไกลนักจากตัวรีสอร์ท สามารถเดินออกกำลังกาย หรือจะถ่ายรูปเช็คอินท่ามกลาง สวนสวยสไตล์ยุโรป ที่ตัดแต่งแนวของต้นไม้ได้อย่างสวยงามมีมิติ สุดโรแมนติกด้วยซุ้มโดมกาเซโบ แลนด์มาร์คที่เหมาะที่สุดกับการถ่ายภาพคู่รัก พรีเวดดิ้ง และจัดงานแต่งงานท่ามกลางบรรยากาศขุนเขา จุดบอกรักที่จะทำให้เจ้าสาว say “Yes, I do” รวมไปถึงทางรีสอร์ทยังมีห้องจัดเลี้ยง Ozone Hall ใกล้กับบริเวณล็อบบี้ ที่สามารถรองรับแขกทั้งแบบฉลองงานแต่งงานได้ถึง 120 ท่าน ในรูปแบบเธียเตอร์ หรือ 200 ท่าน สำหรับงานเลี้ยงค็อกเทล และสามารถปรับรูปแบบรองรับการจัดงานทั่วไป มารีแลกซ์รับแสงแดดอ่อนๆ ยามบ่าย สดชื่นไปกับคาเฟ่สีเขียว อย่างที่คนรักธรรมชาติต้องหลงรัก Castleton Cafe แห่งนี้ ที่ออกแบบได้กลมกลืนไปกับธรรมชาติ โครงสร้างอันสลักเสลาคล้ายโดมแก้ว ให้ไม้เลื้อยห้อยระย้าฟรีฟอร์มอิสระอ่อนช้อย ซ่อนเสน่ห์อยู่ในแนวของสวนยุโรปคลาสสิคผืนกว้าง ไม่ว่ามองมุมไหนก็จะได้รับความสดชื่นของหมู่มวลไม้ดอกไม้ใบนานาพรรณ และเพลิดเพลินกับชุดน้ำชายามบ่าย ของหวานของคาว อย่าง มาการองสีสวยสูตรหวานน้อย, สโคนหอมนุ่มเกรดพรีเมี่ยม, แซนวิสต่างๆ ที่เสิร์ฟในทาวเวอร์สวยงาม พร้อมชา TWG และยังมีเบเกอรี่แสนอร่อยหลากรสชาติให้เลือกชิม รวมถึงฟงดูว์ช็อกโกแลตเข้มข้น สลัดออร์แกนิก และผลิตภัณฑ์สดใหม่จากฟาร์มผักของรีสอร์ท สำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าพักที่นี่ ก็สามารถเข้ามารับบริการเครื่องดื่ม และของว่างแสนอร่อยที่คาเฟ่แห่งนี้ นั่งชิลชมวิวสวนได้เช่นกัน ไม่ไกลกันเดินเยื้องไปทางฝั่งด้านหน้าของรีสอร์ท จะได้สัมผัสกับความน่ารักของสารพัดสัตว์ อาทิ ม้า ไก่ กระต่าย แกะ และแพะ กิจกรรมที่ทุกครอบครัวถูกใจ ณ My Ozone Animal Club ฟาร์มสัตว์ของรีสอร์ทบรรยากาศเสมือนเมืองนอก โดยมีวิวปราสาทเป็นฉากหลัง สามารถป้อนอาหารสัตว์ ถ่ายรูป พร้อมชมการแสดงของม้าที่ควบอวดความสง่างาม หากใครอยากลองขี่ม้าก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ที่มีให้บริการ หรือถ้าอยากจะช้อปต้นไม้กระถางงามๆ ทางฟาร์มก็มีเพาะพันธ์ุขายในราคาย่อมเยาว์ ฟาร์มสัตว์ของรีสอร์ท ถือว่ามีชื่อเสียงด้านวิวทิวทัศน์อันสวยงามแห่งหนึ่งของเขาใหญ่เลยทีเดียว เดินถัดไปทางด้านหลังมีเส้นทางเชื่อมต่อยังแปลงผักเกษตรอินทรีย์ ที่มีชื่อว่า Ozone Oganic Farm ผักปลอดสารพิษหลากหลายชนิดพันธ์ุ ทั้งพืชผักสวนครัวและผักสลัดต้นอวบแข็งแรงสมบูรณ์เขียวสด กรอบอร่อย ปลูกจากเมล็ดพันธ์ุคุณภาพที่คัดสรรในโรงเรือนที่ได้มาตราฐาน อาทิ พันธ์ุ Red Baby Cos, Green Oak, Frillice, Cos Main, Duplex และยังมีสวนมัลเบอร์รี่หรือลูกหม่อนผลสุกหวานเจี๊ยบเก็บจากต้น ให้ผลดกตลอดทั้งปี สามารถนำวัตถุดิบสดใหม่ออร์แกนิกร้อยเปอร์เซ็นต์นี้ สู่อาหารจานโปรดเสิร์ฟที่ห้องอาหารของรีสอร์ทอีกด้วย สำหรับความเป็นเลิศด้านอาหารของเมอเวนพิค ถือได้ว่าอยู่ในระดับตำนานที่มีมายาวนานกว่า 70 ปี พร้อมนำสุนทรียรสอันเป็นเอกลักษณ์สู่ ห้องอาหาร Flavours of Khao Yai ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักของรีสอร์ท ที่เสิร์ฟทั้งสามมื้ออาหารเช้า กลางวัน และมื้อค่ำ ให้แขกผู้เข้าพักได้สัมผัสประสบการณ์รสชาติแสนอร่อยแบบต้นตำรับดั้งเดิมที่น่าจดจำ มีทั้งเมนูซิกเนเจอร์นานาชาติ อาทิ เมนู Mövenpick Birchermuesli, Gruyere Burger, Riz Casimir, Swiss Carrot Cake, Wiener schnitzel, Hot Pan Steak และยังเสิร์ฟอาหารไทยรสเลิศ ที่ปรุงจากวัตถุดิบชั้นดีของท้องถิ่น รวมถึงยังนำผลผลิตปลอดสารเคมีจากฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ที่รีสอร์ทปลูกเอง มาจัดจานเพิ่มอรรถรสในการรับประทานยิ่งขึ้น โดยมื้อเช้าเน้นอาหารแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติ มีให้เลือกรับประทานหลากหลายเมนู และวาไรตี้ด้วยของหวานที่รังสรรค์มาเพื่อเด็กๆ ด้วย และเมนูสุขภาพที่รังสรรค์ส่วนมื้ออื่นๆ จะเป็นแบบ A La Carte ตามสั่ง อิ่มอร่อยไปพร้อมเพลิดเพลินชมวิวสนามกอล์ฟเขียวสดชื่นจากมุมสูง และมองไกลออกไปเป็นวิววิลล่าที่มีทิวเขาทอดยาวเป็นแบล็กกราวด์ หรือจะเลือกนั่งรับประทานด้านในห้องอาหาร พร้อมเอนจอยบาร์เครื่องดื่ม สำหรับคุณหนูๆ ทางห้องอาหารมีอุปกรณ์สำหรับวาดภาพระบายสี ให้เด็กน้อยได้ปลดปล่อยจินตนาการขณะนั่งรออาหาร เป็นการฝึกฝนสมาธิให้เด็กๆ ได้จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือจะสนุกกับคลาสเรียนรู้การปรุงอาหาร Cooking Class มีให้เลือกทั้งแบบคลาสผู้ใหญ่ และคลาสสำหรับเด็ก ราคา 800 บาทต่อคน จำนวน 6 เมนู เป็นเมนูง่ายๆ ที่เด็กชอบรับประทาน อาทิ Tic Tac Toe, Caterpillar sandwich, Chicken Pesto Rocket Ships, Fresh Fruit Snake In The Jungle, The Mighty Jungle, Birds Nest Spaghetti อีกไฮไลท์ที่ถือได้ว่าเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวผู้รักสุขภาพ Panacee Wellness Khao Yai ศูนย์ดูแลสุขภาพแนวเวชศาสตร์ชะลอวัย (anti-aging) และสปาทรีทเมนท์ ที่นับเป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ท ให้การรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แบบองค์รวม รวมถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ได้รับมาตรฐานสากลจากประเทศเยอรมัน สามารถดูแลลึกถึงระดับเซลล์ ทำให้รับรู้ถึงภาวะร่างกายของตัวเองในปัจจุบัน รวมถึงแนวโน้มของการเกิดโรคในอนาคต พร้อมทั้งช่วยวางแผนการดูแลสุขภาพโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีโปรแกรมการรักษาที่หลากหลาย อาทิ โปรแกรมตรวจสุขภาพแบบองค์รวม ด้วยการวิเคราะห์มวลกล้ามเนื้อ มวลกระดูก อัตราการเผาผลาญ ตรวจดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด หรือจะเป็นโปรแกรมดีท็อกซ์ ช่วยฟื้นฟูหลอดเลือด ตับ ลำไส้ เพื่อการบำรุงร่างกายและผิวพรรณ รวมถึงโปรแกรมทรีทเมนต์ เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก และอ่อนเยาว์ไปอย่างยาวนาน เปิดให้บริการเวลา 08.00 – 20.00 น. และทั้งหมดคือความโดดเด่นเหนือระดับ เมอเวนพิค รีสอร์ท เขาใหญ่ ไม่ได้เป็นเพียงรีสอร์ทเพื่อการท่องเที่ยวพักผ่อนเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นรีสอร์ทที่มอบประสบการณ์อันสมบูรณ์แบบของการใช้ชีวิตที่เพียบพร้อม รองรับนักพักผ่อนทุกเพศทุกวัย ทุกช่วงอายุ ที่มองหาสถานที่ผ่อนคลายอย่างมีสไตล์ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนสังคมเมืองรูปแบบใหม่แบบครบจบในที่เดียว   และทางรีสอร์ท