TOP

‘อีโค-เฟรนด์ลี’ ใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า ลดปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

Eco-friendly เป็นเรื่องที่ได้ยินกันมาหลายปี เริ่มเห็นรูปธรรมชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ และควรจะได้การสานต่ออย่างยั่งยืน แล้วเราเข้าใจคำว่า “อีโค-เฟรนด์ลี” กันดีแค่ไหน? หัวใจหลักๆ ของอีโค-เฟรนด์ลี คือการตอบโจทย์ว่า เราจะใช้ทรัพยากรอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด สมเหตุสมผลและก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

 

Eco-friendly material

วัสดุ คือหัวใจหลักของผลิตภัณฑ์อีโค-เฟรนด์ลี วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คือวัสดุที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดในทุกขั้นตอน ซึ่งควรมีคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้ เช่น สามารถใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลได้ มีความคงทนใช้งานได้คุ้มค่า ย่อยสลายได้ในธรรมชาติ เป็นวัสดุที่ผลิตเพิ่มได้ ไม่ใช่ใช้แล้วหมดไป ใช้พลังงานในการผลิตต่ำ ช่วยลดมลพิษ เป็นต้น โดยวัสดุที่เข้าค่ายเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น

ไม้ไผ่

ได้ชื่อว่าเป็นวัสดุสุดยอดอีโค-เฟรนด์ลีของโลก เพราะหาได้ง่าย โตเร็ว แข็งแรง มีน้ำหนักเบา แต่สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก ประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายตั้งแต่ทำเครื่องใช้ไม้สอยไปจนถึงทำรั้ว แม้กระทั่งสร้างบ้าน

 

ไม้รีไซเคิล

เป็นการนำเศษไม้ธรรมชาติมาผสมกับเศษไม้อัด อัดแปรรูปเป็นไม้อัดแผ่นใหม่ ใช้ปูพื้นหรือตกแต่งอาคารได้ ถ้าเกิดความเสียหายจากการใช้งานที่ไม่ได้มีการปนเปื้อนมากเกินไป ยังสามารถนำไปคัดแยก บด แล้วกลับสู่กระบวนการทำไม้อัดใหม่ได้อีก

 

เหล็กรีไซเคิล

เหล็กเป็นวัสดุที่มีอายุการใช้งานยาวนาน และนำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ รวมถึงมีต้นทุนในการรีไซเคิลที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับวัสดุอื่นๆ และเหล็กยังสามารถนำไปหลอมเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ง่าย

 

กรีนบอร์ด

แผ่นกระดาษอัดที่ได้จากการรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่ม ประกอบด้วยกระดาษ 75% โพลิเอทิลีน 20% และอะลูมิเนียมฟอยล์ 5% มีคุณสมบัติคล้ายไม้เนื้อแข็ง ทนทานแข็งแรงกว่าไม้อัด ทนต่อความชื้น กันน้ำ กันปลวก และมอด เป็นฉนวนกันความร้อนและกันเสียงได้ สามารถดัดโค้ง เลื่อย ตัด ติดกาว เจาะยึดด้วยตะปูได้ และทำสีได้ การรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่ม 1 ตัน ช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 900 กิโลกรัม

 

แกลบอัดแท่ง

ปกติหลังการสีข้าว จะได้แกลบซึ่งอาจนำไปใช้เป็นอาหารสัตว์ ทำปุ๋ย หรือใช้เป็นเชื้อเพลิง แต่การนำแกลบไปบดให้ละเอียดและอัดเป็นแท่ง ทำให้สามารถนำไปใช้งานหรือเก็บรักษาได้สะดวกยิ่งขึ้น กลายเป็นถ่านแกลบที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงแทนได้อย่างดี คุ้มค่า ช่วยลดการตัดไม้ทำฟืนหรือเผาถ่าน และไม่ทำลายสภาพแวดล้อม

 

กากกาแฟ

ขยะจากกากกาแฟโดยทั่วไปถูกจัดการด้วยวิธีฝังกลบ ซึ่งส่งผลต่อภาวะโลกร้อน ความจริงแล้วกากกาแฟสามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ย ช่วยเพิ่มธาตุไนโตรเจนให้ต้นไม้ได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม มีผู้คิดค้นพัฒนากากกาแฟให้กลายเป็น Cofee logs หรือถ่านจากกากกาแฟ แม้ว่าการใช้ถ่านจะยังสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในขณะที่เผา แต่เมื่อเทียบกับการกำจัดแบบเดิมแล้ว สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศได้ถึง 80%

 

ฟิล์มบรรจุภัณฑ์อาหารจากเลือดหมู

ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาสาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) ได้ทำการทดลองดัดแปรพลาสมาโปรตีนจากเลือดของหมู และนำไปขึ้นรูปเป็นฟิล์มบริโภคได้ (Edible Film) เพื่อประยุกต์เป็นบรรจุภัณฑ์อาหาร สามารถรักษาคุณภาพและยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรได้อย่างหลากหลาย เป็นฟิล์มพอลิเมอร์ชีวภาพ ที่มีคุณสมบัติทัดเทียมกับวัสดุสังเคราะห์ที่มีในท้องตลาด  ทั้งยังย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดปัญหากับสิ่งแวดล้อม และช่วยลดปริมาณขยะพล่าสติก จะเห็นได้ว่า มีความพยายามมากมายที่จะสรรหาวัสดุที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ นำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาผลิตใหม่ รวมทั้งคิดค้นวัสดุใหม่ๆ เพื่อใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า และลดขยะไปพร้อมๆ กัน

 

Eco-friendly Design

หลักการของอีโค-เฟรนด์ลี มีอยู่ 4 ข้อ ได้แก่

ต้องคำนึงถึง “กระบวนการผลิต”

การเลือกใช้วัตถุดิบจากของเหลือใช้ วัตถุดิบปลอดสารพิษ วัตถุดิบที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม วัตถุดิบที่สามารถแปรสภาพนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ขณะที่ขั้นตอนการผลิตต้องลดความซับซ้อน เพื่อให้ใช้พลังงานน้อยลง มีของเสียระหว่างการผลิตน้อย ประหยัดในมิติต่างๆ ซึ่งรวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ช่วยประหยัดพื้นที่การจัดเก็บ และสามารถนำไปใช้งานอื่นได้อีก

 

ต้องคำนึงถึง “การขนส่ง”

วิธีการขนย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ต้องรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ต้องประหยัด ซึ่งหมายรวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้ประหยัดพื้นที่ เพื่อให้บรรทุกได้มากขึ้น ลดจำนวนครั้งในการขนส่ง ซึ่งเท่ากับการลดการใช้พลังงาน และลดมลพิษจากการใช้พลังงาน

 

ต้องคำนึงถึง “ผู้ใช้งาน”

จะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยใช้งานได้ ทำอย่างไรให้ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยให้สิ้นเปลือง คุ้มค่ากับทรัพยากร วัตถุดิบ พลังงานต่างๆ ที่สูญเสียไปในการผลิตทุกขั้นตอน

 

ต้องคำนึงถึง “การกำจัด”

งานออกแบบที่ดี ต้องไม่ทำลายสื่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นทางการผลิตจนถึงปลายทาง วัสดุที่ใช้ย่อยสลายเองได้หรือไม่ กำจัดและจัดการอย่างไรเมื่อหมดอายุการใช้งานแล้ว มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากน้อยเพียงใด ซ่อมแซมง่ายไหม เปลี่ยนเฉพาะขิ้นส่วนเพื่อยืดอายุการใช้งานได้หรือไม่ ใช้งานซ้ำได้หรือเปล่า เพื่อช่วยลดการทิ้งให้กลายเป็นขยะ

 

 

———————————————————-

ที่มา: Mercedes Me Magazine Issue 03/2020