TOP

เปิดตัว “Waldorf Astoria” แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนอาคารแมกโนเลียส์ ที่มีความสูง 60 ชั้น บนถนนราชดำริ ใจกลางกรุงเทพมหานคร ได้เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ นับเป็นโรงแรมแห่งล่าสุด ของแบรนด์สุดหรู วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย โฮเทล แอนด์ รีสอร์ต ในเครือ ฮิลตัน (NYSE: HLT) มีบริษัท แมกโนเลียค วอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เป็นเจ้าของธุรกิจ และบริหารจัดการโดยเครือฮิลตัน

“MQDC มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับฮิลตัน ซึ่งเป็นผู้นำในวงการโรงแรมที่มีชื่อเสียงยาวนาน ในการเปิดตัวโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ MQDC กล่าว

“ด้วยความร่วมมือ และการเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ MQDC ได้เดินหน้าทางธุรกิจเพื่อเข้าสู่การให้บริการในรูปแบบที่เลิศหรู เรามั่นใจว่า ด้วยทำเลที่ตั้งและสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด อันเป็นที่ตั้งของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อย่างวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย เป็นการรวมตัวกันที่สมบูรณ์แบบ และเรายินดีที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อมอบประสบการณ์ที่หรูหราเหนือระดับให้กับแขกผู้เข้าพักในโรงแรมและเจ้าของห้องพักในโครงการของเรา”

“ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีความเจริญเติบโตด้านการเดินทาง และการท่องเที่ยวมาก ฮิลตันเล็งเห็นถึงความต้องการทั้งจากนักท่องเที่ยว อีกทั้งลูกค้าภายในประเทศที่ชื่นชอบการใช้บริการในโรงแรม จึงเล็งเห็นศักยภาพในการเปิดตัวแบรนด์วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มอบประสบการณ์ที่หรูหราเหนือระดับในภูมิภาคนี้” อลัน วัตส์ ประธานภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เครือฮิลตัน กล่าว “การเปิดตัวของ วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ ซึ่งเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ นับเป็นก้าวใหม่ที่น่าจับตาของแบรนด์นี้ในทวีปเอเชีย หลังจากที่เปิดให้บริการโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย ณ กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเฉิงตูที่ผ่านมา โดยแบรนด์วอลดอร์ฟ แอสโทเรียมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแผนการเปิดโรงแรมฯในอีกหลายแห่งในอนาคต”

โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ ตั้งอยู่ ณ สี่แยกราชประสงค์ เพียงไม่กี่นาทีจากแหล่งช้อปปิ้ง, ศาลพระพรหมเอราวัณ, ห้างเกษร วิลเลจ และสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีราชดำริ (สายสีลม) และสถานีชิดลม (สายสุขุมวิท) ที่ตั้งของโรงแรมที่สะดวกสบายต่อการเดินทาง ทำให้ผู้เข้าพักสามารถเที่ยวชมไลฟ์สไตล์ที่มีสีสันของกรุงเทพฯ อาทิ ถนนเจริญกรุง ย่านแห่งความคิดสร้างสรรค์สุดฮิบ ย่านท่าเตียน สัมผัสกับบรรยากาศสุดชิลริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมเพียง 10 – 25 นาทีโดยรถยนต์

“จากวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย นิวยอร์ค สู่ วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย เฉิงตู แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่มีมายาวนาน ซึ่งสร้างนิยามใหม่ของประสบการณ์การเข้าพักในโรงแรมสำหรับนักเดินทางยุคใหม่” มาร์ติน ริงค์ รองประธาน และหัวหน้าใหญ่กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ตสายลักซ์ชัวรี่ แอนด์ ไลฟ์สไตล์ของเครือฮิลตัน กล่าว “เราเชื่อมั่นว่า การเปิดตัวของ วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ จะไม่เพียงแค่มอบคำจำกัดความใหม่ของการให้บริการชั้นเลิศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากแต่จะสร้างประสบการณ์ที่ผู้มาใช้บริการจดจำ และประทับใจมิลืมเลือน”

โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ พร้อมให้บริการห้องพักและสวีทสไตล์เรสสิเดนเชียลที่หรูหรา จำนวน 171 ห้อง ตกแต่งอย่างงดงาม สะท้อนให้เห็นถึงความมีศิลปะที่ประณีต พิถีพิถัน ด้วยการออกแบบของสถาปนิกนักออกแบบชื่อดังระดับโลกชาวฮ่องกง อังเดร ฟู (Andre Fu) และทีมงานของเขาจาก AFSO ดีไซน์สตูดิโอ (AFSO Design Studio) ผลงานของอังเดร ฟู มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในด้านการ

ออกแบบโครงการและพื้นที่ที่ใช้สำหรับงานบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ที่มีความทันสมัย หรือความร่วมมือในด้านแฟชั่นชั้นสูง AFSO ได้ตั้งใจออกแบบให้ วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ มีความร่วมสมัยและสอดแทรกเสน่ห์ศิลปะแบบไทย ด้วยแนวคิดที่จะนำความเป็นไทยอันทรงคุณค่าและสง่างาม มาตีความให้มีความทันสมัยเหมาะกับกรุงเทพฯ ยุคใหม่อย่างแท้จริง โดยอังเดร ฟู รับผิดชอบในการออกแบบตกแต่งห้องพัก ห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม, ห้องอาหารเดอะ บราสเซอรี พีค็อก อัลลีย์ เล้าจ์ ห้องประชุมสัมมนา รวมถึงห้องแมกโนเลีย บอลรูม

ทั้งนี้ ชั้นที่ 55-57 ของโรงแรม เปรียบเสมือนเพชรยอดมงกุฎที่งดงาม ประกอบด้วยห้องอาหาร และบาร์จำนวน 3 ห้อง ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครในมุมกว้าง ได้รับการออกแบบอย่างวิจิตรบรรจง โดยบริษัทออกแบบคอนเซ็ปท์และดีไซน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาฟโรโค่ (AvroKO) การออกแบบภายในของห้องอาหาร บูลแอนด์แบร์ (Bull & Bear), เดอะ ลอฟท์ (The Loft) และ เดอะ แชมเปญ บาร์ (The Champagne Bar) จึงตอบรับความเป็นวอลดอร์ฟ แอสโทเรียอย่างสมบูรณ์แบบ

ด้วยความตั้งใจที่จะให้ วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ เป็นจุดหมายที่ทุกคนให้ความสนใจมารับประทานอาหาร และเพื่อเน้นย้ำให้เห็นถึงความชำนาญในด้านอาหารของ วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย โรงแรมฯ จึงมีห้องอาหารที่มีแนวคิดอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ, เล้าจน์ และบาร์ถึง 2 แห่ง ไว้ให้บริการ รวมถึงห้องอาหารอื่นดังต่อไปนี้

• ฟร้อนท์ รูม (Front Room) เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม นำทีมโดย เชฟเฟ รุ่งทิวา ชุ่มมงคล ซึ่งนำประสบการณ์การทำงานในร้านอาหารมิชลินสตาร์หลายแห่งในยุโรป มารังสรรค์เมนูสไตล์นอร์ดิก-ไทยที่ผสมผสานรสชาติอาหารในแถบยุโรปเหนือและไทยได้อย่างลงตัว

• เดอะ บราสเซอรี (The Brasserie) เป็นห้องอาหารฝรั่งเศสที่เน้นการใช้วัตถุดิบจากภายในประเทศที่สดใหม่เป็นหลัก ตั้งอยู่บนล็อบบี้ชั้นบน ให้บริการอาหารมื้อเช้า กลางวัน และค่ำ และยังเป็นจุดที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ ในบรรยากาศสุดเก๋แบบสบายๆ

• พีค็อก อัลลีย์ (Peacock Alley) เป็นเล้าจน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นแบบที่ วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย นิวยอร์ค ให้บริการชุดชายามบ่าย และอาหารว่าง มีเมนูขนมอบโฮมเมดและเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่นตลอดทั้งวัน ซึ่งตั้งอยู่บนล็อบบี้ชั้นบน

• บูลแอนด์แบร์ (Bull & Bear) ตั้งอยู่บนชั้น 55 ให้บริการอาหารย่างและอาหารทะเล มีเคาน์เตอร์อาหารสดที่คุณสามารถเลือกให้ปิ้ง ย่าง อบ หรือรมควันได้ตามใจ ด้วยการตกแต่งสไตล์อาร์ต เดโค ที่สวยสะดุดตา บรรยากาศสนุกสนาน และทิวทัศน์ที่สวยงามของกรุงเทพฯในยามค่ำคืน ทำให้บูลแอนด์แบร์เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์และงานเลี้ยงฉลองเป็นอย่างยิ่ง

• เดอะ ลอฟท์ (The Loft) บาร์สุดหรูที่ตั้งอยู่บนชั้น 56 ได้แนวคิดจากบาร์ในนิวยอร์ค ตกแต่งในสไตล์ โรแมนติกแนวอาร์ต นูโว ซึ่งเมนูเครื่องดื่มได้รับแรงบันดาลใจจาก วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย บาร์ บุ๊ค ต้นฉบับปี 2478 (Waldorf Astoria Bar Book) ให้บริการเครื่องดื่มที่เลื่องชื่อในท้องถิ่น และค็อกเทลที่โด่งดังในอดีต เติมความทันสมัยให้รสชาติโดยใช้วัตถุดิบโฮมเมด และเสิร์ฟพร้อมกับอาหารว่างรสเลิศ

• เดอะ แชมเปญ บาร์ (The Champagne Bar) ตั้งอยู่บนชั้น 57 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโรงแรม ได้รับการออกแบบด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด ให้บริการแชมเปญชั้นนำหลากหลาย ค็อกเทลสุดครีเอทีฟ พร้อมวิวที่สวยที่สุดของกรุงเทพมหานคร ในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว เพื่อให้เป็นค่ำคืนที่แสนประทับใจของผู้มาเยือน และยังเปิดให้เข้าเฉพาะแขกของบาร์เท่านั้น จึงนับว่าเป็นบาร์ที่มีความพิเศษอย่างแท้จริง ด้วยความตั้งใจว่าจะให้เป็นสถานที่ที่ทุกคนอยากมาสัมผัสที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

ห้องแมกโนเลีย บอลรูม ตั้งอยู่บนชั้น 10 ในพื้นที่กว้าง 730 ตารางเมตร และเพดานที่สูงถึง 8 เมตร จึงมีความ โอ่อ่า สง่างาม เหมาะสำหรับการจัดงานแต่งงานและงานเลี้ยงฉลองอื่น ๆ ด้วยบันไดวนหินอ่อนซึ่งเป็นอีกหนึ่งงานดีไซด์ที่อังเดร ฟู มีความภูมิใจในความงดงามที่วิจิตร หรูหราตั้งตระหง่านเพื่อต้อนรับผู้มาร่วมงานให้เกิดความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรก และเป็นมุมสำหรับถ่ายรูปที่จะตรึงอยู่ในความทรงจำ ห้องแมกโนเลีย บอลรูม สามารถรับรองผู้มาร่วมงานได้ 700 ท่านสำหรับงานสังสรรค์แบบค๊อกเทล และในแบบจัดที่นั่ง ได้ 330 คน จึงคาดได้ว่าจะเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงแบบที่ทุกคนมองหามากที่สุดแห่งหนึ่ง

โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Hilton Honors ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ได้รับรางวัลในด้านการมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้เข้าพัก จากทั้ง 14 แบรนด์ของเครือฮิลตัน สมาชิกที่สำรองห้องพักโดยตรงกับโรงแรมฯ สามารถเลือกใช้สิทธิประโยชน์ที่หลากหลาย รวมทั้งการชำระเงิน ที่ให้สมาชิกเลือกชำระเป็นคะแนนสะสมร่วมกับเงินสด ส่วนลดต่าง ๆ เฉพาะสมาชิก ใช้อินเตอร์เน็ตไร้สายฟรี และสามารถใช้ Hilton Honors mobile app ได้อีกด้วย

 

 

 

โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ ตั้งอยู่ที่ 151 ถนนราชดำริ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองห้องพักได้ที่ www.waldorfbangkok.waldorfastoria.com หรือโทร. 02 846 8888